ป.ป.ช.เปิดแฟ้ม 10 คดีรุกป่าปี 66 จับตา 2 “นักการเมืองดัง” ใกล้เสร็จแล้ว
ป.ป.ช.เปิดแฟ้ม 10 คดีรุกป่า-ออกโฉนดที่ดินมิชอบปี 66 ทั้งบิ๊กข้าราชการ-กลุ่มทุนโดนสอบเพียบ จ่อแจ้งข้อกล่าวหา “อดีตบิ๊กป่าไม้” คดี “นักการเมืองดัง” ใกล้จบแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 ที่โรงแรมลาโค่ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายมงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการ มีภารกิจเกี่ยวกับการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ การออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารและออกใบอนุญาตในการประกอบกิจการโรงแรมในเขตกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมทั้งคดีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตโรงงานทุกชนิด และคดีเกี่ยวกับเหมืองแร่ โดยจะมีการใช้พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ 60-70% โดยการดำเนินการตั้งแต่ปี 2563-2566 มีเรื่องที่ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วและมีการชี้มูลทั้งอาญาและวินัย ต่อเจ้าหน้าที่รัฐ 49 คดี ชี้มูลอาญา 5 คดี ชี้มูลวินัย 4 คดี โดยมีผู้ที่ถูกชี้มูลตั้งแต่รัฐมนตรีจนถึงนักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่ส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกภถอนเอกสารสิทธิแล้ว 64 คดี
โดยคดีที่น่าสนใจในปี 2566 ประกอบด้วย คดีที่ 1 การบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สนามทดสอบรถยนต์
คดีที่ 2 การบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับคดีที่ 1
ส่วนคดีที่ 3 การออกโฉนดที่ดินดดยการเดินสำรวจในเขตเขาและความลาดชันเกิน 35% อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ประมาณ 300 ไร่ อยู่ในขั้นตอนแจ้งข้อกล่าวหา โดยเกี่ยวกับกลุ่มทุนน้ำเมา
คดีที่ 4 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตออกโฉนดที่ดิน 2 แปลง บนหาดฟรีด้อม ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถออกโฉนดได้ โดยได้เรียกรับเงินในการดำเนินการจำนวน 120 ล้านบาท ซึ่งเสร็จภายในปีนี้แน่นอน
คดีที่ 5 ออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ และรับรองแนวเขต ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพนามเบญจา โดยเป็นกรณีที่กรมป่าไม้ไปขีดแนวแขตแล้วไม่ตรงกับแผนที่ โดยขีดให้มีช่องว่างทำให้กลุ่มทุนที่เป็นบริษัทยา เข้าไปออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว และมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องโดยตรวจสอบพบกระแสการเงิน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
คดีที่ 6 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกโฉนดที่ดิน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 41-3-28 ไร่ เกินกว่าหลักฐานเดิมที่แจ้งไว้คือ 34-3-16 ไร่ หรือเพิ่มมากว่า 7-3-12 ไร่ โดยนำพื้นที่ป่าและที่ดินของนิคมสหกรณ์ทองผาภูมิมารังวัดรวมด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีดังกล่าวเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนสำคัญของประเทศไทย และเป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่มีบทบาทสำคัญในพรรคหนึ่ง โดยคดีนี้ความคืบหน้าล่าสุดใกล้จบแล้ว
คดีที่ 7 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บุกรุกถือครองพื้นที่สวนป่าไม้สักของรัฐบาล รวมพื้นที่ 49 ไร่เศษ เหตุเกิดที่สวนป่ากิวทัพยั้ง และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ข้าวต้ม-ป่าห้วยลึก ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งใกล้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้คือ อดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเป็น อดีต ส.ส. กับพวกที่เป็นอดีตข้าราชการกรมป่า ความคืบหน้าล่าสุด ใกล้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาแล้ว
คดีที่ 8 นายก อบต.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต กับพวก ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในโครงการลาคอลิน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ และพื้นที่ห้ามก่อสร้างตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งคดีดังกล่าวอาจจะมีการชี้มูลยกทั้งสภาท้องถิ่น มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนสถาบันการเงิน
คดีที่ 9 เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต สาขาถลาง กับพวกรวม 16 ราย ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบนเกาะแรด เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่มีบุคคลใดเข้าไปถือครองและทำประโยชน์จำนวน 6 แปลง ซึ่งมีการแจ้งข้อหาแล้ว มีความเกี่ยวกับกลุ่มทุนประกอบกิจการรถยนต์
คดีที่ 10 ทุจริตออกใบจอง, น.ส. 3 ก. และโฉนดที่ดินทับที่สาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ โดยเกี่ยวกับกลุ่มทุนด้านการเกษตร กว้านซื้อที่ดินเอาใบจองไปออกโฉนด และถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง
สำหรับแผนการดำเนินการในปัจจุบัน มี 254 คดี โดยเป็นการตรวจสอบเบื้องต้น 172 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 82 คดี โดยเป็นรายภาค ได้แก่ ภาคเหนือ 11 คดี ตรวจสอบเบื้องต้น 8 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 3 คดี โดย 1 ใน 3 เป็นคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภาคกลาง 52 คดี อยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้น 38 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 14 คดี โดยมีคดีใหญ่กว่าหมื่นไร่ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่จะต้องตรวจสอบต่อไป ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 58 คดี อยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้น 40 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 18 คดี ภาคตะวันออก 15 คดี อยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้น 13 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 2 คดี ภาคตะวันตก 29 คดี อยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้น 21 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 8 คดี และ ภาคใต้ 89 คดี โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้น 52 คดี ไต่สวนข้อเท็จจริง 37 คดี โดยมีคดีเยอะสุดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต