"รมว.ยธ." แจงสภาฯ ชะลอใช้ ร่างกม.อุ้มหาย กันผลเสียกับสังคม
"สมศักดิ์"ตอบกระทู้สภา ยันรัฐบาลไม่ได้ถ่วงเวลาใช้กฎหมายอุ้มหาย ทั้งฉบับยังใช้ได้เลื่อนแค่ 4 มาตรา ชี้หากดึงดันใช้แบบไม่พร้อมส่งผลเสียต่อสังคมมากกว่า
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ตอบกระทู้ถามด้วยวาจาของนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต่อการบังคับใช้กกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 แต่ล่าสุดพบว่ามีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป 4 มาตราด้วยกัน ทั้งที่หน่วยงานได้เตรียมความพร้อมไว้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
โดยนายสมศักดิ์ อภิปรายชี้แจงว่า ขณะนี้พ.ร.บ.ยังดำเนินการต่อไป มีแค่ 4 มาตราเท่านั้นที่รอความพร้อม ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมหรือกระทรวงอื่นๆ ที่มีลักษณะการจับกุมมีความพร้อม เพราะมีภาระหน้าที่ คดีความน้อยกว่า สตช. เพราะมาตรา 22 ต้องมีการบันทึกเทป ทั้งกระบวนการ อาจจะส่งความผิดพลาด โดยขณะนี้ ครม.อนุมัติงบประมาณ 444.81 ล้านบาท ให้สตช.จัดหากล้องบันทึกภาพและเสียง 48,568 ชุด 3 รายการ 1.กล้องชนิดติดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ 37,624 ชุด งบประมาณ 338.62 ล้านบาท 2.กล้องบันทึกพร้อมอุปกรณ์ ใช้ในห้องสอบสวนและควบคุม 9,366 ชุด งบประมาณ 93.57 ล้านบาท และ3.กล้องชนิดติดตั้งในรถยนต์ 1,578 ชุด งบประมาณ 12.62 ล้านบาท โดยการเลื่อน 4 มาตรา ไป 7 เดือน ดูแล้วความสมบูรณ์ตรงนี้หากเราดำเนินไปตามนี้ ความไม่พร้อมทั้งหมดจะเรียบร้อยไปได้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การออกกฎหมาย บางฉบับเป็นประโยชน์มาก หากเราได้ออกกฎหมายอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน ในตอนแรก สตช.ขอเลื่อนแบบไม่มีกำหนด แต่เมื่อเราพิจารณาแล้วเห็นว่าควรให้แค่ 7 เดือนเท่านั้น หากเราไม่เลื่อนให้เลยอาจจะมีผลเสียตามมา อาจจะทำให้การเก็บรวมรวมหลักฐานตามกระบวนการไม่สมบูรณ์ เกิดการโต้แย้งในระหว่างดำเนินคดี ส่งผลเสียต่อสังคมอย่างมาก รวมถึงอาจทำให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงต่อการถูกลงโทษทางอาญาและวินัยอีกด้วย จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการเลื่อนในมาตราที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งกระทรวงยุติธรรมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการเลื่อน แต่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมเราจึงกำหนดกรอบไว้แค่ 7 เดือน
"การดำเนินการตรงนี้ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ไปดึงดันอะไรทั้งสิ้น ส่วนไหนที่ไม่สมบูรณ์ งบประมาณที่ขาดอยู่ก็เติมให้ ซึ่งในมาตราอื่นที่อยู่ในกฎหมายนั้นก็ยังใช้ได้ สำหรับมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่า การจัดทำ พ.ร.ก. ต้องส่งเข้าสภาโดยเร่งด่วน ตนได้ถามไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ทราบว่าหนังสือกำลังจะส่งอยู่นายกฯแล้ว หากมีโอกาสเปิดสภาก็คงมีโอกาสได้พิจารณา ซึ่งเป็นอำนาจของประธานสภาในการพิจารณาต่อไป"นายสมศักดิ์ กล่าว.