ผ่าธุรกิจ 30.6 ล้าน “บิ๊ก กิตติพงษ์” กลุ่ม 4 บ.ก่อนโดนหมายจับคดี “มาเก๊า 888”

ยุทธการ “มาเก๊า 888” ทลายเว็บพนันออนไลน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังขยายผลจับกุมผู้ถูกกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ นายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร หรือ “บิ๊ก” น้องชายคนที่ 3 ในพี่น้องตระกูล 4 บ. 

โดยก่อนหน้านี้พี่น้อง 4 บ. มามอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว 2 ราย คือ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ “เบนซ์ เดม่อน” พี่ใหญ่ ที่ถูกจับกุมตัวไปสอบปากคำ และได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดี อีกราย “ผู้กองไบรท์” หรือ ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร ที่ให้การปฏิเสธยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “มาเก๊า 888” และเตรียมลาออกจากราชการ

ส่วนเครือข่ายของ “4 บ.” เท่าที่สืบทราบตอนนี้มี “คีย์แมน” อย่างน้อย 2 ราย คือ นายณัฐพงศ์ ระชินลา หรือ “ซิโก้” กรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง และนายณพมนัส สังขทรัพย์ หรือ “มายส์” กรรมการอย่างน้อย 9 บริษัท ยังดำเนินกิจการอยู่ 6 แห่ง

ก่อนหน้านี้ กรุงเทพธุรกิจ เคยรายงานขุมข่ายธุรกิจของ พี่น้อง “4 บ.” มีหลายสิบแห่ง รวมทุนจดทะเบียนราว 1.3 พันล้านบาท โดยพี่น้อง 4 บ.เป็นกรรมการ และลงหุ้นในธุรกิจร่วมกันอย่างน้อย 5 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท บีเอเค ขจรบุญถาวร จำกัด (พี่น้อง 4 บ. เป็นกรรมการ) ปัจจุบันชื่อบริษัท บีเอเค กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนปี 2561 ทุน 5 ล้านบาท ทำธุรกิจการจัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 42,402,061 บาท กำไรสุทธิ 4,256,973 บาท

2.บริษัท ซีดับเบิ้ลยูดี 59 จำกัด (ชัยวัฒน์ และกิตติพงษ์ เป็นกรรมการ) จดทะเบียนปี 2564 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการติดตั้งเครื่องจักรอุตสาหกรรม นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 40,581,921 บาท กำไรสุทธิ 4,107,009 บาท

3.บริษัท ประจวบอินเตอร์เทรด จำกัด (เอกชัย ชัยวัฒน์ และกิตติพงษ์ เป็นกรรมการ) จดทะเบียนปี 2555 ทุน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 ไม่มีรายได้ ขาดทุนสุทธิ 8,000 บาท

4.บริษัท ลูน่า ดี จำกัด (คุณากร เอกชัย และกิตติพงษ์ เป็นกรรมการ) จดทะเบียนปี 2564 ทุน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจการผลิตเครื่องหอม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้ 22 บาท ขาดทุนสุทธิ 14,208 บาท

5.บริษัท เคเคบี มูน กรุ๊ป จำกัด (คุณากร กิตติพงษ์ และเอกชัย เป็นกรรมการ) จดทะเบียนปี 2563 ทุน 5 ล้านบาท ทำธุรกิจประกอบกิจการให้คำปรึกษา รับจ้างติดตั้ง เขียนโปรแกรม ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศและเครือข่าย ยังไม่มีข้อมูลงบการเงิน

อ่านข่าว: 

ผ่าพอร์ทหุ้น 7 บริษัท ทุน 1.3 พันล้าน! “เบนซ์ เดม่อน” พี่ใหญ่ “4 บ.”

แกะพอร์ตหุ้น-ขุมธุรกิจ “ผู้กองไบรท์” น้องเล็ก “4 บ.” พันคดี “มาเก๊า 888”

ผ่าสาแหรกเครือข่ายธุรกิจ “4 บ.” ก่อน ตร.ปูพรมล่ายุทธการ “มาเก๊า 888”

คราวนี้มาดูเฉพาะขุมธุรกิจของ “บิ๊ก กิตติพงษ์” น้องคนที่ 3 ของพี่น้อง 4 บ. หากไม่นับ 5 ธุรกิจข้างต้น ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า “บิ๊ก กิตติพงษ์” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 2 แห่ง ได้แก่

• บริษัท เคเคบี มูน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 21/18-21 ซอยศูนย์วิจัย ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจติดตั้งเขียนโปรแกรม Computer ,AI ,สารสนเทศน์ ปรากฏชื่อพี่น้อง 3 ใน 4 บ.เป็นกรรมการ คือ นายคุณากร ขจรบุญถาวร นายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร และนายเอกชัย ขจรบุญถาวร

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 22 มิ.ย. 2563 นายคุณากร ขจรบุญถาวร หรือ “ผู้กองไบรท์” ถือหุ้นใหญ่สุด 80% “บิ๊ก กิตติพงษ์” ถือ 10% และ “บอส เอกชัย ขจรบุญถาวร” พี่ชายคนรอง ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 7,355,102 บาท มีหนี้สินรวม 439,197 บาท มีรายได้รวม 14,054,509 บาท มีรายจ่ายรวม 11,842,612 บาท เสียภาษีเงินได้ 287,991 บาท กำไรสุทธิ 1,923,905 บาท

• บริษัท เต็นท์ออนไลน์ จำกัด

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 309 ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจตัวแทนซื้อขายรถยนต์มือสองทางอินเตอร์เน็ต ปรากฏชื่อกรรมการดังนี้ นายปภาวิน พุทธนนทวิทย์ นายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร นายชัยวัฒน์ วชิรธาดา นายภวิศ โหมดม่วง

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2565 นายปภาวิน พุทธนนทวิทย์ ถือหุ้นใหญ่สุด 40% นายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร ถือหุ้นรองลงมา 35% นายภวิศ โหมดม่วง ถือหุ้น 15% และนายชัยวัฒน์ วชิรธาดา ถือหุ้น 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 1,761,789 บาท หนี้สินรวม 5,039,500 บาท มีรายได้รวม 1.03 บาท มีรายจ่ายรวม 268,737 บาท ขาดทุนสุทธิ 268,736 บาท

ส่วนอีก 2 แห่งที่เลิกกิจการไปมีสถานะดังนี้

• บริษัท สตูดิโอ ดี เวนิส จำกัด ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” เมื่อ 28 ต.ค. 2564 ทุน 1.6 ล้านบาท ทำธุรกิจการดำเนินงานของสถานที่ออกกำลังกาย 
• หจก.กินดี168 เสร็จชำระบัญชีเมื่อ 21 ธ.ค. 2562 ทุน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจร้านอาหาร

หากนับขุมข่ายธุรกิจของ “บิ๊ก กิตติพงษ์” น้องชายคนรอง ที่ทำร่วมกับพี่น้อง 4 บ.และธุรกิจส่วนตัวแล้ว มีทุนจดทะเบียนกว่า 30.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีบรรดาพี่น้อง 4 บ.รวมถึงผู้เกี่ยวข้องนั้น เพิ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาในชั้นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่