"เอิร์ธ" เปิดใจร่วมปชป.ตอบโจทย์นโยบาย รับเห็นต่าง "อัศวิน" แต่ไม่ขัดแย้ง
"เอิร์ธ พงศกร" เปิดใจร่วมทีมปชป.ตอบโจทย์นโยบาย ชื่นชอบ "อภิสิทธิ์" รับเห็นต่าง "อัศวิน"แต่ไม่ขัดแย้งรทสช. พร้อมเผยบิดาให้กำลังใจขอให้ขยัน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เปิดเผยภายหลังเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคที่มีความเข้าใจพื้นที่กทม.และมีความผูกพันธ์กับกทม.อย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นสข., สก., ส.ส. และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมถึงความเป็น สถาบันทางการเมืองที่ให้โอกาสคนได้พูดทุกเรื่องและรับฟัง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของอย่างแท้จริง สมาชิกสามารถพูดได้ ซึ่งหลายอย่างต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ดังนั้นหากเข้าสนามการเมืองและไม่ได้สังกัดพรรคที่ไม่ได้เป็นพรรคที่เป็นสถาบันอย่างแท้จริง เป็นพรรคเฉพาะกิจ หลายอย่างอาจมีปัญหาในการผลักดัน
ตนจึงมั่นใจว่า หากต้องการที่จะผลักดันนโยบายต่างๆ พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถทำได้
ส่วนพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่ากทม.ซึ่งเป็นบิดา ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ตนไม่ได้ตามไปด้วยเกี่ยวกับการวางตัวผู้สมัครใช่หรือไม่ ร.ต.อ.พงศกร ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติมีอุดมการณ์ทางการเมืองอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งตนและคุณพ่อก็มีความคิดทางการเมืองและความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองคนอยากจะทำให้ประเทศดีขึ้นอยู่แล้ว แม้เส้นทางที่เลือกไปจะต่างกัน แต่เชื่อว่านักการเมืองทุกคนก็อยากทำให้ประเทศไทยดีขึ้น
พร้อมยอมรับว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะคุณพ่อได้ชักชวนแล้วหลายครั้ง แต่ตนได้อธิบายเหตุผลและเข้าใจกัน ไม่ใช่ศัตรู แต่มันคือการแข่งขันทางการเมืองที่อยากเสนอ และไม่ใช่เข้ามาจะเป็นส.ส.เลย แต่เป็นตัวเลือกหนึ่งในเขตคลองเตย-วัฒนา ซึ่งต้องขยันให้มาก และเป็นตัวเลือกที่ดีให้ได้ พร้อมเปิดเผยว่า มีพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านมาชักชวนให้ร่วมงาน ซึ่งตนไม่ขอพาดพิงแต่เป็น 5 พรรคการเมืองใหญ่
สำหรับความมั่นใจในพื้นที่เขตคลองเตย-วัฒนานั้น ยอมรับว่า เป็นเขตที่มีผู้สมัครที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เช่น นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่อย่างยาวนานและไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง หรือนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติก็เป็นผู้ที่มีศักยภาพสูง รวมถึงผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ซึ่งตนไม่ได้มีความมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่มั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ และเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคนคลองเตย-วัฒนา
ส่วนการเป็นลูกของพล.ต.อ.อัศวิน จะเป็นข้อได้เปรียบหรือไม่ ตนมองว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะพ่อของตนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และย้ำว่าไม่ใช่ศัตรูกัน เพราะพ่อก็ยังเป็นพ่อ ตนยังรักพ่อเหมือนเดิม และคุณพ่อยังให้คำแนะนำว่า ขอให้ขยันกว่าคนอื่นเพราะเป็นหน้าใหม่ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูง เหมือนคนอื่น เพราะคุณพ่ออยากให้ประสบความสำเร็จ แต่ท่านยังต้องช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ
ร.ต.อ.พงศกร ยังเปิดเผยว่า เหตุผลในการตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มีส่วน เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ตนเคารพมากตั้งแต่เด็ก ซึ่งได้ ปรึกษาพูดคุยกันมาโดยตลอด ท่านจึงเป็น ส่วนสำคัญมากที่สุดในการตัดสินใจครั้งนี้ และอาจจะต้องรบกวนขอนายอภิสิทธิ์ให้คำแนะนำแต่เรื่องการหาเสียงตนไม่แน่ใจ
เมื่อถามถึงความมั่นใจในกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.พงศกร ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีความได้เปรียบในการเลือกตั้ง เพราะครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ส.ส.กทม.เลย ดังนั้นอาจจะเสียเปรียบพรรคอื่น แต่การเลือกตั้งผ่านมาแล้วผ่านไป แต่การทำการเมืองต้องทำในสิ่งที่เชื่อ และคิดว่าจะมีประโยชน์มากที่สุดต่อประชาชน พร้อมระบุว่า ตนยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่เป็นคู่แข่งพล.ต.อ.อัศวินเมื่อครั้งเลือกตั้งผู้ว่ากทม. แต่เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหาอะไร