"นายกฯ" บอกคนกรุงเก่า รอเงินประกันราคาไม่ได้ ต้องลดค่าปุ๋ย พัฒนาพันธุ์ข้าว
"บิ๊กตู่" เผย มา อยุธยา ไม่ได้หาเสียง ชี้คนทรยศบ้านเมืองเพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย บอกเจ็บมือไม่เจ็บใจ สู้ไม่ยอมแพ้ หัวเราะลั่น พร้อมแย้มมีแนวทางแก้หนี้ให้รอดู
ที่จ.พระนครศรีอยุธยา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับตอนหนึ่งกับประชาชนว่า ยอมรับว่าเห็นใจชาวพระนครศรีอยุธยาที่ต้องเดือดร้อนเพราะเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่รัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ แม้ว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลแต่ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการมาโดยตลอดไม่ใช่แค่ในพื้นที่พระนครศรีอยุธยาเท่านั้นยังจะต้องดูแลอีก 76 จังหวัดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ในการเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งนายกฯ ก็รู้ว่าประชาชนเดือดร้อน แต่ก็ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ทั้งนี้ ตนมาที่อยุธยาหลายครั้ง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้ไปมาหลายวัดตนอธิษฐานขอให้บ้านเมืองชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มีความสุขมีรายได้มากขึ้น และขอให้ตนสามารถทำงานได้สำเร็จ สุขภาพแข็งแรงครอบครัวปลอดภัย
สำหรับในช่วงที่อยุธยา ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก โรงงานขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้มาช่วยเหลือ จึงทำให้เกิดความเชื่อมั่น และไม่ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น อีกทั้งยังได้รับคำชมจากต่างประเทศ เรื่องการจัดการสถานการณ์โควิด และการจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน ที่เราเป็นลำดับสองของอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์
นายกฯ ย้ำอีกว่า วันนี้ไม่ได้หาเสียงแต่มาในนามของนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ยืนยันว่าจะใช้งบประมาณ จัดการกับปัญหาต่างๆ ซึ่งก็ขอให้เห็นใจนายกฯ ด้วยเพราะว่าดูแลปัญหาในทุกจังหวัด ซึ่งวันนี้ตนเหนื่อยและพูดมากมาทั้งวัน จังหวัดอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ ได้เจอกับทุกคนก็เหมือนเป็นพี่เป็นน้องเป็นตายายในยุคเดียวกัน พร้อมกับท่องคำขวัญของจังหวัด โดยบอกว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ่งจะต้องปรับปรุงพันธุ์ข้าวบ้าง ลดราคาปุ๋ยลดต้นทุนจะมัวไปรอประกันราคาข้าวอย่างเดียวคงไม่ได้ เราต้องทำให้ข้าวของเราเป็นข้าวที่มีคุณภาพ จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจฐานรากของเราอยู่ได้ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากขึ้น แต่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน นักท่องเที่ยวต่างชาติเจอนายกฯก็ดีใจ และดีใจที่ได้มาหลบหนาวในประเทศไทย เราต้องให้ความอบอุ่นเขา เจอฝรั่งก็ยิ้มอย่างเดียวไปเลย เจอใครก็ยิ้มไว้อย่าทะเลาะเบาะแว้ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศแห่งรอยยิ้ม ยิ้มสู้ไป เดี๋ยวก็ดีขึ้น ใจเราก็ดี ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่แช่งใคร อโหสิกรรมให้กันทุกเรื่อง ไม่ด่ากับใครใครให้อะไรมาตนก็อโหสิกรรมไป ไม่สร้างบาปให้กันและกัน
นายกฯ ยังระบุอีกว่า อยุธยาได้รับการจัดเป็นลำดับที่ 1 ใน 50 เมืองทั่วโลกที่ควรเดินทางมาเยือนหลังสถานการณ์ โควิด-19 และเป็น 1 ใน 8 ของทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำมาทั้งนั้น“ขออย่าไปฟังคนที่ท้า เค้าโกหก” และอย่าไปเครียด ถ้าเครียดจะนึกอะไรไม่ออก และขอให้เห็นใจรัฐบาลนิด เพราะต้องดูแลคนกว่า 70 ล้านคน ยอมรับว่าเหนื่อย พอบ่นว่าเหนื่อยก็บอกว่าออกไปสิ ก็พูดได้แค่นี้แหละ เหนื่อยแต่ก็จะทำ ขอกำลังใจให้ตนด้วย เพราะสุดท้ายแล้วตนก็จะทำให้ได้
ส่วนอาการเจ็บที่มือขวา นายฯ บอกว่า เจ็บมือแต่ไม่เจ็บใจ ปลื้มใจไง สู้ทุกอย่างไม่ว่าจะเจออะไรไม่ยอมแพ้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะความเดือดร้อนของประชาชน จะดูแลประชาชนให้ดีที่สุดในฐานะนายกฯ ของประเทศ ยืนยันว่าเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก แต่จะทำให้ดีที่สุด ขอประชาชนเห็นใจในจุดนี้ด้วย และอย่าไปฟังใครโม้มาก ว่าน้ำจะไม่ท่วม ขอให้ประชาชนไปศึกษาว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปแล้วบ้างตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา พร้อมชี้ไปที่ป้ายของตัวเอง ว่า “เดินมาไกลมากแล้ว หาให้เจอว่า ไอ้คนนี้ทำอะไรไปแล้วบ้าง” ซึ่งหลายอย่างทำไปแล้ว หลายอย่างกำลังทำอยู่ และต้องทำต่อ
นายกฯ ยังได้สอบถามประชาชนว่าใครเป็นหนี้บ้าง ขอให้ยกมือขึ้น นี่คือสิ่งที่สำคัญที่จะทำต่อแต่ยังไม่บอกว่าจะลดหนี้ได้อย่างไร พร้อมกับหัวเราะอย่างร่าเริง ขอให้รออีกนิดนึง รับรองว่าทำได้ จึงได้สร้างเสียงหัวเราะให้กับประชาชนที่ร่วมรับฟัง พร้อมถามต่อว่า “รอได้ รอได้หรือไม่” “เราต้องแก้ทำต่อให้สำเร็จ นะจ๊ะ”
นายกฯ ยังกล่าวติดตลกกับประชาชนว่า ขอให้ไปดูในทีวีบ้าง หากวันไหนที่นายกฯ ไม่ค่อยหล่อแปลว่าวันนั้นหงุดหงิด แต่ไม่ได้หงุดหงิดกับประชาชน แต่หงุดหงิดกับคำถาม ปกติเป็นคนใจดีแต่ถ้าถามเมื่อไหร่หงุดหงิดเมื่อนั้น เพราะถามในสิ่งที่ไม่ควรตอบ
ในช่วงท้าย นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ได้มาเมืองพระ เมืองโบราณ บรรพบุรุษรักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้กว่าจะได้มา เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ท่านคงไม่อยากได้น้ำมากขนาดนี้ เรารักษาแผ่นดินนี้ไว้ได้เพราะเรามีน้ำ เมืองหลวงจึงไม่ถูกเขายึดไป เว้นแต่ตอนมีไอ้คนเลว คนทรยศ คนเลวมีทุกระยะ ไม่ต้องไปกลัว และอย่าไปส่งเสริมคนเลว คนเลวคือคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ได้ดูแลประชาชนอย่างสุจริตใจ ส่วนนายกฯ ยังไม่รู้ว่าดีหรือเลว อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าจะทำให้สุจริตและบริสุทธิ์ใจมากที่สุด พร้อมย้ำว่าวันนี้ไม่ได้มาหาเสียงนะจ๊ะ อย่าไปดูไอ้คนในทีวีที่หน้างอๆ มันคนละคนกัน
สำหรับบรรยากาศการพบปะประชาชน นายกฯ เดินรับดอกไม้จากคนที่มาให้กำลังใจ และถ่ายภาพเซลฟี่ โดยมีช่วงหนึ่งไม่สามารถรับดอกไม้ได้ เนื่องจากมือขวามีอาการเจ็บและบวม จึงให้ทีมงานรับดอกไม้แทน และเป็นที่น่าสังเกตว่านายกฯ พยายามเลี่ยงที่จะให้ประชาชนสัมผัสที่มือขวา ที่มีอาการเจ็บและบวม