"โหนแดง" บลัฟ "ปรองดองจำแลง" ศึกโกยแต้ม-ปลุกการเมืองเลือกขั้ว

ห้วงที่ “หมุดหมายการเมือง” เข้าสู่โหมดของการหาเสียงเลือกตั้งแบบจัดหนักจัดเต็ม ขณะที่บรรดาพรรคการเมืองต่างฝ่ายต่างงัดสารพัดกระบวนท่าออกมา “เกทับ-บลัฟแหลก” เพื่อโกยแต้มช่วงชิงคะแนน 

นอกเหนือจาก “สงครามเชิงนโยบาย” ซึ่งรอบนี้ยังคงให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้อง คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจเป็นลำดับต้นๆ แล้ว 

ฝุ่นควันการเมืองยามนี้ ยังเต็มไปด้วยการต่อสู้ใน “เชิงความคิด” และ “อุดมการณ์ทางการเมือง”  โดยเฉพาะการหยิบยกเหตุการณ์การเมืองในอดีต ปลุกกระแส “เปลี่ยนประเทศ” ผ่านการลงมติเลือกผู้แทน

จับสัญญาณฟากฝั่งการเมือง โดยเฉพาะ “ค่ายส้ม” อย่างพรรคก้าวไกล  “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย “ปิยบุตร แสงกนกกุล”เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียง ผนึกกำลัง-สยบภาพเกาเหลา ด้วยการนำทัพส้ม เหยียบ“เมืองหลวงคนเสื้อแดง” ที่ จ.อุดรธานี เมื่อ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

เวทีดังกล่าว “ปิยบุตร”ปราศรัยย้อนไปถึงการชุมนุมปี 53 ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ซึ่งมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก  เวลานี้ผ่านไปถึง 13 ปี ยังไม่ชำระสะสาง นายทหารที่บัญชาการการสั่งฆ่า ยังลอยนวล ไม่นำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แถมยังได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี

“วันนี้แม้แต่ พล.อ.ประวิตร ที่เสนอตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นโซ่ข้อกลาง ก้าวข้ามความขัดแย้ง มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ ศอฉ.ในวันนั้น ทำหน้าที่ปราบปรามสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง...

พรรคก้าวไกลชัดเจน ไม่เข้าร่วมกับพรรคทหารจำแลง ไม่ว่าพรรคไหนทั้งนั้น ถ้า ครม.วันข้างหน้า มีพรรคทหารจำแลงอยู่ในนั้นเมื่อไหร่ พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นฝ่ายค้านทันที” ปิยบุตร ย้ำชัดผ่านเวทีดังกล่าว

กลเกมที่เกิดขึ้น แน่นอนว่า “ค่ายส้ม” หวังเจาะแผนรุก ทุบไปที่ฐานคะแนน “ขั้วประชาธิปไตย”  โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่เวลานี้อาจมีบางส่วนเกิดความหวาดระแวง “ค่ายนายใหญ่” หลังช่วงที่ผ่านมา มีการเปิดตัวผู้สมัครก๊วน “กปปส.ตาสว่าง” 

ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมายังมีความพยายามในการโยนหินสูตรจับขั้ว โดยเฉพาะสูตรปรองดองระหว่าง “เพื่อไทย-พลังประชารัฐ” จุดนี้เอง อาจเป็นเกมเข้าทางก้าวไกล ในการเจาะฐาน “เสื้อแดง” เพื่อแปรเปลี่ยนมาเป็นคะแนน “สีส้ม” 

อีกแง่หนึ่ง การประกาศท่าทีของ “ปิยบุตร” กลางเมืองหลวงคนเสื้อแดง ยังหวังผล บลัฟกลับไปยัง “ขั้วอนุรักษ์นิยม” โดยเฉพาะพลังประชารัฐ ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้นำ 

ช่วงที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคพปชร. พยายามออกมาแสดงท่าที ในเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ถึงขั้นชูเป็นนโยบายพรรค ปรากฎชัดบนป้ายหาเสียงผู้สมัครทั่วประเทศ ตอกย้ำด้วยจดหมายเปิดใจ ด้วยประโยคสำคัญที่ว่า  “หัวใจเป็นอนุรักษ์นิยม แต่ต้องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย” 

สอดรับกับท่าที ส.ว.สายต่างๆ ที่จะเป็นหมากตัวสำคัญในการโหวตเลือกนายกฯ เวลานี้ถูกแบ่งเป็นสาย ป.พี่-ป.น้อง ช่วงที่ผ่านมาพยายามออกมาโยน “ชอยส์การเมือง” ชื่อนาย ก. นาย ข. นาย ส.  ตามบทที่ถูกเขียนโดย “คนหลังม่าน” สภาสูง 

ปรากฎการณ์ปลุกพลังต่อสู้ในเชิง“ความคิด”และ“อุดมการณ์ทางการเมือง”ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสะท้อนเกม บลัฟกันไปมาระหว่างขั้ว“ประชาธิปไตย” และ “อนุรักษ์นิยม”เท่านั้น หากแต่เป็นการปลุกกระแสเลือกขั้วการเมืองไปในคราวเดียวกันอีกด้วย