‘อุ๊งอิ๊ง’ควง‘เศรษฐา’นำทีมเพื่อไทยบุกพิจิตร-พิษณุโลกปราศรัยคู่ครั้งแรก
‘อุ๊งอิ๊ง’ควง‘เศรษฐา’บุกพิจิตร-พิษณุโลกปราศรัยคู่ครั้งแรก ‘ณัฐวุฒิ’ มั่นใจเพื่อไทยพร้อมสู้ศึกสนามเลือกตั้ง ลั่นมีความพร้อมมากที่สุด
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยที่ จ.พิจิตร และพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคมนี้ นอกจากการนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้ว ไฮไลต์สำคัญในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรก
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรค พท.เข้าร่วม นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรค และตน ร่วมปราศรัยบนเวที โดยในวันที่ 11 มีนาคม คณะของพรรค พท.จะเดินทางไปที่ จ.พิจิตร เพื่อสักการะหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง อ.เมือง ก่อนเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนวันที่ 12 มีนาคม เดินทางไป จ.พิษณุโลก เพื่อกราบสักการะพระพุทธชินราช ก่อนเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยที่อาคารวังเป็ดร่วมใจ วัดวังเป็ด อ.บางระกำ และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนกลางเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป และในสัปดาห์ถัดไป พรรค พท.มีโปรแกรมลงพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีนายเศรษฐาเข้าร่วม ส่วนบางพื้นที่จะมี น.ส.แพทองธารร่วมกับนายเศรษฐา รวมถึงยังคงขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงสุดสัปดาห์อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงกำหนดคลอด ส่วนการยุบสภานั้นเป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พรรค พท.มีความพร้อมทุกวันสำหรับการลงสนามเลือกตั้ง การเดินหน้าหาเสียงและการตั้งเวทีปราศรัย
“การลงพื้นที่คลองเตยของนายเศรษฐาเมื่อวานนี้ (8 มีนาคม) แม้จะเป็นบุคลากรหน้าใหม่ แต่ก็ได้รับความสนใจและการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไปจนถึงช่วงเลือกตั้ง จะเดินพบปะพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และจะมีเวทีในการนำเสนอแนวคิดแก้ปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะมิติด้านเศรษฐกิจ
โดยนับจากนี้ไปจะเห็นว่าทีมพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมและสมบูรณ์มากขึ้นทุกวัน โดยถือเป็นพรรคที่มีความพร้อมมากที่สุดก็ว่าได้ ถ้าทุกคนเห็นตรงกันว่าเรื่องความเป็นอยู่ ปากท้อง และเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งในแง่บุคลากร ประสบการณ์ เป็นที่ประจักษ์ของสังคม เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน