บทใหม่ ‘สมศักดิ์’แม่ทัพใต้เพื่อไทย ซอฟท์พาวเวอร์วัวชน โคล้านตัวรีเทิร์น
ได้เวลาของสองมิตร ‘สมศักดิ์ - สุริยะ’ ที่ต้องหาทางไป รอแค่พิธีกรรมอำลา “ลุงป้อม” กลับเพื่อไทย ลุ้นไปเป็นรัฐบาล
“ผมถนัดเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน... ผมตอบไม่ได้ว่า จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ แต่ต้องบอกว่าผมไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ในขณะที่เป็น ส.ส.” สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ตอบนักข่าวทำเนียบฯ ล่าสุด 7 มี.ค.2566
แม้จะทีเล่น แต่ก็เป็นทีจริง ของ “สมศักดิ์” แกนนำกลุ่มสามมิตร พลังประชารัฐ ที่ไม่ตอบชัดถ้อยชัดคำเรื่องย้ายพรรค เมื่อถูกซักถามทุกครั้งที่มาประชุมคณะรัฐมนตรี แต่วงในรู้กันทั่วแล้วว่า ก่อนยุบสภาฯ สมศักดิ์ จะไปเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน
เจ้าตัวยังลีลา "แล้วแต่ท่านสุริยะ ระยะเวลาการยุบสภาจากวันนี้เหลือ 10 กว่าวัน คงตัดสินใจอะไรกันได้แล้ว ขอให้ถามท่านสุริยะ ยกให้ท่านเลย จะไปไหนก็ไปด้วยกัน" แต่ชัดเจนว่า สมศักดิ์ ไม่ได้ไปคนเดียว แต่ไปแพคคู่ "สองมิตร"ที่เหลืออยู่
ว่ากันว่า "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้เจรจากับสมศักดิ์ เทพสุทิน ขอให้นักการเมืองจอมเก๋า ลงไปคุมทัพแดนใต้ เนื่องจากพรรคเพื่อไทย ไม่มีขุนพลนำทัพชัดเจน
มีข้อน่าสังเกตถึงความเคลื่อนไหวของเขา ช่วงวันที่ 2-4 มี.ค.2566 สมศักดิ์ ได้ยกคณะข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ตรวจราชการภาคใต้ 4 จังหวัดได้แก่ นครศรี ธรรมราชตรัง พัทลุง และสงขลา
ระหว่างสมศักดิ์ลงพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ไม่ได้นัดหมาย ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ มาต้อนรับแต่อย่างใด แต่มีการพบปะกับแกนนำมวลชนคนใต้ กลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ
วันที่ 2 มี.ค.2566 สมศักดิ์ ไปเปิดประชุมเรื่องการมีส่วนร่วมปราบปรามยาเสพติด มีชาวนครศรีธรรมราช กว่า 2,000 คน เข้าร่วมที่ มรภ.นครศรีธรรมราช โดยสมศักดิ์อวดผลงาน “ปลดล็อกพืชกระท่อม”
วันที่ 3 มี.ค.2566 สมศักดิ์ไปเยี่ยมชม สนามกีฬาชนโคบ้านควนขนุน จ.พัทลุง และสนามกีฬาชนโคบ้านควนตรัง จ.ตรัง เพื่อศึกษาแนวทาง และรับฟังข้อเสนอแนะในการร่างกฎหมายปศุสัตว์
วันเดียวกัน สมศักดิ์ไปร่วมประชุมหารือกับสมาคมกีฬาชนโคไทย และผู้ประกอบการที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งสมศักดิ์มีแนวทางส่งเสริมกีฬาชนโค ให้เป็น Soft Power พร้อมทั้งเดินหน้าโครงการโคล้านตัวรีเทิร์นอีกครั้ง
“ความคิดของผมยังทันสมัย...พรรคไหนจะได้ตัวผมไปขับเคลื่อนเรื่องนี้ ก็ต้องรอติดตามดู” สมศักดิ์ทิ้งปริศนาไว้กับชาวภาคใต้
ต้องยอมรับว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร พอจะมีคะแนนนิยมในภาคใต้ แต่ยังขาดแม่ทัพที่จะไปกวาดแต้ม เจ๊แดง จึงสรุปว่า สมศักดิ์ ผู้ชำนาญเรื่องชนโค และพืชกระท่อม ตอบโจทย์เพื่อไทยปักษ์ใต้
ในวันที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน ไปพูดที่หอประชุม มรภ.นครศรีธรรมราช ก็ได้เกริ่นนำร่องว่าตนเป็นคน จังหวัดสุโขทัย ได้รู้จักจังหวัดนครศรีธรรมราช จากหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง
นอกจากนี้ สมศักดิ์ยังคุยว่า ในฐานะที่เป็น รมว.ยุติธรรม เดินทางมาตรวจราชการภาคใต้ 16 ครั้งแล้ว
“ที่ผ่านมา ผมมางานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน งานสร้างการรับรู้ประมวลกฎหมายยาเสพติด และการปลดล็อกพืชกระท่อม แต่วันนี้ ผมนำเรื่องที่ชอบมาบอกคือวัวชน”
สมศักดิ์ต้องการนำร่องจากกีฬาชนโค หรือวัวชน เพื่อเข้าสู่การหาเสียงด้วยนโยบายโคล้านตัว ซึ่งเป็นความฝันของเขา มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย
"นโยบายโคล้านตัว" สมศักดิ์ ฝังใจกับเรื่องนี้มาก ซึ่งเขาผลักดันมาตั้งแต่สมัยเป็นรมว.เกษตรฯ พรรคไทยรักไทย ช่วงที่อยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็พยายามดันเรื่องนี้ แต่โชคร้ายไม่ได้คุมกระทรวงเกษตรฯ
ในวันที่สมศักดิ์ ปราศรัยกับชาวกีฬาชนโค ที่พัทลุง และตรัง ได้บอกว่า มี 2 พรรคการเมืองที่หาเสียงเรื่องโคล้านตัว คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้เสนอนโยบายโครงการวัวล้านครอบครัว และพรรคเพื่อไทย พูดถึงโครงการโคล้านตัว
ดังนั้น สมศักดิ์จึงสรุปว่า ต้นทางเรื่องโคล้านตัวมาจากตัวเขา และให้จับตาดูว่า ตัวเขาจะไปขับเคลื่อนเรื่องนี้ ที่พรรคไหน
สมศักดิ์รู้ว่า คนใต้ชอบชนโค จึงขายฝันเรื่องยกระดับกีฬาวัวชน หรือชนโค ให้โกอินเตอร์ จึงวางยุทธศาสตร์ออกกฎหมายรองรับ เป็นการหาเสียงล่วงหน้า
ได้เวลาของสองมิตร สมศักดิ์ - สุริยะ ที่ต้องหาทางไป จึงรอแค่พิธีกรรมอำลา “ลุงป้อม” กลับเพื่อไทย ลุ้นไปเป็นรัฐบาล