‘สามมิตร’ บนเส้นทางรัฐบาล ล็อก 3 เก้าอี้ รมต.ในฝัน
“สมศักดิ์ เทพสุทิน” เผยในวงลับว่า สถานีต่อไปของเขา โฟกัสไปที่เก้าอี้ “รมว.มหาดไทย” แต่หากปีนไปไม่ถึงเก้าอี้ “รมว.เกษตรและสหกรณ์”ก็ยังอยู่ในโฟกัสตลอดเวลาเช่นกัน
“2 ส.” แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้ฤกษ์แกรนด์โอเพ่นนิ่งในสังกัดพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ บนเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครบ 400 เขต ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
นับเป็นก้าวย่างสำคัญของ 2 ส.แห่งกลุ่มสามมิตร “สมศักดิ์ เทพสุทิน” และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ตัดสินใจตีจากพรรคพลังประชารัฐ
สัมพันธ์ลึกทางการเมืองของ “สมศักดิ์-สุริยะ” ผูกไว้กับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตเจ้าแม่วังบัวบาน ฉะนั้นการกลับรังเก่า จึงไม่ใช่เรื่องยาก
“สมศักดิ์” ชัดเจนในจุดยืน ต้องร่วมรัฐบาลเท่านั้น เมื่อเที่ยวนี้ประเมินรอบทิศแล้วว่า พรรคเพื่อไทยมีโอกาสแลนด์สไลด์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้จะมี 250 ส.ว.ขวางอยู่ แต่หากมี ส.ส. เกิน 253 เสียง ก็เชื่อว่ายากจะต้าน
ที่สำคัญรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีการแก้ไขจากบัตรใบเดียว มาเป็นบัตรสองใบ ไม่เอื้อกับ “ขั้ว 3 ป.” เนื่องจากการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะถูกแยกส่วนออกมา ซึ่งจะทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ถูกกดจำนวนให้ต่ำลงเหมือนปี 2562 ที่ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้แต่ที่นั่งเดียว
ขณะเดียวกัน หาก “สมศักดิ์-สุริยะ” ไปต่อกับ พปชร. สุ่มเสี่ยงที่จะถูกวางตัวในลำดับบัญชีรายชื่อ ในโซนที่ไม่ปลอดภัย เพราะเที่ยวนี้ โอกาสที่ พปชร.จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นกอบเป็นกำก็ยาก ในพรรคยังคาดการณ์กันว่า ไม่เกินลำดับ 10 ขณะที่"ลูกรัก"ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อแถวกันยาวเหยียด
ฉะนั้น การมูฟออนจาก พปชร. มาซบรังเก่าที่เพื่อไทย “สมศักดิ์-สุริยะ”ย่อมหวังอยู่ในลิสต์บัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ แม้เซฟโซนของเพื่อไทยจะมองไกลไปที่ลำดับ 30+ นอกจากนี้ ยังคิดเกมไกล ด้วยการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเอาไว้แล้ว
“สมศักดิ์” เผยในวงลับว่า สถานีต่อไปของเขา โฟกัสไปที่เก้าอี้ “รมว.มหาดไทย” แต่หากปีนไปไม่ถึงเก้าอี้ “รมว.เกษตรและสหกรณ์”ก็ยังอยู่ในโฟกัสตลอดเวลาเช่นกัน
สำหรับ “สุริยะ”ยังฝันจะนั่งเก้าอี้ “รมว.พลังงาน” แต่หากยังอยู่กับ “ขั้ว 3 ป.” คงยากที่ฝันจะเป็นจริง เพราะเก้าอี้นี้เป็นโควตาหลักของเครือข่าย “ทุนการเมือง”ที่ขวางลำอยู่
ขณะเดียวกันเครือข่าย “สามมิตร” ที่ใช้ยุทธศาสตร์ ดาวกระจาย “สี่ทิศ”ก็เป็นการเพลย์เซฟ โดย “สมศักดิ์-สุริยะ”
รวมทั้งน้องสาว พรรณสิริ กุลนาถศิริ กลับมาเพื่อไทย พร้อมกับหนีบเอา “เสี่ยต้น” สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส. ชลบุรี มาด้วย
ขณะที่บ้านใหญ่ราชบุรี “บุญยิ่ง นิติกาญจนา” ส.ส. ราชบุรี ยังปักหลักอยู่กับ “หัวหน้าป้อม” ที่ พปชร. เพราะยังมีสัญญาใจและเงื่อนไข ยกเก้าอี้รัฐมนตรีให้ หากกวาด ส.ส.ราชบุรี มายกจังหวัด
ด้าน “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “เสี่ยแด๊กซ์” ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็แยกตัวไปช่วย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ
นอกจากนี้ ยังส่ง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ ไปบุกเบิกฐานที่มั่นใหม่ โดยฝากอนาคตทางการเมืองไว้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี
เมื่อ “สามมิตร” กระจายกำลัง แยกกันไปเติบโต ย่อมส่งผลดีต่อภาพรวมของกลุ่ม เพราะหากรวมตัวกันในพรรคเดียว โอกาสที่แต่ละคนจะเติบโต ได้โควตารัฐมนตรียกกลุ่ม โดยเฉพาะ 4 เก้าอี้อย่างทุกวันนี้ ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีก
อ่านจังหวะก้าวของ “สามมิตร”แทงกั๊กเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้เช่นกัน เพราะยังมี “แกนนำเพื่อไทย”บางส่วน ไม่เชื่อว่าจะเป็นมิตรการเมือง
หากมีเงื่อนไข “ขั้วประยุทธ์” จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ด้วยการอาศัยเสียงของ 250 ส.ว. โหวตตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ “กลุ่มการเมือง”ที่น่าหวาดระแวงมากที่สุดในพรรคเพื่อไทย จะถูกโฟกัสไปที่ “สามมิตร” ทันที และเมื่อใดที่มีเงื่อนไขที่ยากจะปฏิเสธ พวกเขาจะกลายเป็น “งูเห่าสีแดง” หรือไม่
ทุกย่างก้าวการเมืองของ “สมศักดิ์-สุริยะ” และเครือข่ายสามมิตร จึงถูกจับตาถึงการเดินหมากการเมือง ที่มีเป้าหมายร่วมขั้วรัฐบาล ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในฝันเท่านั้น