ดีลลับ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ธรรมรักษ์” ตีอีสานใต้เจาะยาง “ภูมิใจไทย”
หากดีลลับระหว่าง“ บิ๊กป้อม - บิ๊กแอ๊ด” สำเร็จ “ภูมิใจไทย” คงต้องเหนื่อยหน่อย เพราะจะเป็นพรรคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่ง “เนวิน ชิดชอบ” ก็น่าจะรู้ชื่อเสียง “พล.อ.ธรรมรักษ์” ในพื้นที่อีสานใต้ โดยเฉพาะ จ.บุรีรัมย์ ได้ดีกว่าใคร
ชื่นมื่น หลังปรากฎภาพแกนนำระดับบิ๊ก “พรรคภูมิใจไทย” ยกขบวนรับประทานอาหารกลางวันกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ชาดา ไทยเศรษฐ์ คอการเมืองก็คาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าจะเกิดขั้วการเมืองใหม่หรือไม่
เพราะหาก 2 พรรค “พปชร.-ภูมิใจไทย” หันมาจับมือกันจริง ก็เอาเรื่องอยู่ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่ง “ศักดิ์สยาม” ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีถูกร้องปมถือหุ้นและเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจํากัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
ประจวบเหมาะกับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวร “พรรคภูมิใจไทย” ไปเสียแล้ว ตามดิสเครดิต ตั้งแต่ กัญชาเสรี รถไฟฟ้าสายสีส้ม ร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยุบพรรคภูมิใจไทย และยังประกาศ เดินหน้ารณรงค์ทำลายเสียง ล่าสุดเตรียมบุก “บุรีรัมย์” ฐานที่มั่นภูมิใจไทย
ปฏิบัติการยกขบวนไปกินข้าวกับ “บิ๊กป้อม” ถือเป็นการแก้เกม-แก้เผ็ด ใครบางคน ที่ “บิ๊กภูมิใจไทย” เชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำให้เกิดความปั่นป่วนในครั้งนี้ แต่ไม่ได้เฉลียวใจคนที่นั่งหัวโต๊ะอาหารที่ อนุทิน เรียกขาน ผู้จัดการรัฐบาลอย่าง “บิ๊กป้อม” แม้แต่น้อยนิด
“อนุทิน” เล่าตอนหนึ่งถึงเรื่องราวที่พูดคุยกับ “บิ๊กป้อม”ว่า ได้พูดคุยถึงสถานการณ์การเมือง แลกเปลี่ยนความพร้อมของทั้งสองพรรคในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้สอบถามถึงการประเมินตัวเลข ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยว่าได้เท่าไหร่ ก็แจ้งว่าน่าจะได้ประมาณ 70 คน ซึ่งท่านก็เห็นว่า ตรงกับผลโพลที่ออกมา
เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า “อีสานใต้” 8 จังหวัด จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และยโสธร ถือเป็นพื้นที่ของพรรภูมิใจไทย โดยเฉพาะเมืองหลวงใหญ่ที่เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนงานการเมือง คือ จ.บุรีรัมย์ ที่มี เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นแกนนำสูงสุด
โดยล่าสุดมีกระแสข่าวว่า “บิ๊กป้อม” ได้ทาบทาม “บิ๊กแอ๊ด” พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ยุค รัฐบาลพรรคไทยรักไทย ของทักษิณ ชินวัตร ให้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และหากดีลสำเร็จ จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวในเร็วๆ นี้
“พล.อ.ธรรมรักษ์” เป็นนายเก่า และมีบทบาทสำคัญคนหนึ่งเคยช่วย “บิ๊กป้อม” กลับเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ. หลังถูก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น (ประธานองคมนตรี) จับย้ายเข้ากรุ จากแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น “ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ.” เหตุเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ลา
คนในพรรคไทยรักไทย ซึ่งปัจจุบันคือ พรรคเพื่อไทย ต่างรู้กันดีว่า “พล.อ.ธรรมรักษ์”ไม่ธรรมดา มีฐานเสียงในพื้นที่อีสาน โดยเฉพาะอีสานใต้ ทั้ง จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ฯ
ในขณะ “บิ๊กป้อม” หมายมั่นปั้นมือเจาะเก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่อีสาน ภายใต้เดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ แม้ปัจจุบันจะมี “บิ๊กอี๊ด” พล.อ. ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาค 2 ดูแลภาคอีสาน ปูทางสร้างผลงานและเครือข่ายมวลชน แต่ดูเหมือนยังไม่เห็นรูปธรรม จึงเกิดปฏิบัติการ ดีลลับกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ เจ้านายเก่า
ปัจจุบัน พล.อ.ธรรมรักษ์ อายุ 84 ปี มีพื้นเพจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ศึกษาชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนประชาวิทยา และโรงเรียนประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชั้นเตรียมอุดมปีที่ 1 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ วิทยาศาสตร์บัณฑิต โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 10 และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 34
ชีวิตรับราชการ เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เป็นผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเพชรบุรี เป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญชาการทหารสูงสุดเป็นตำแหน่งสุดท้าย
ก่อนจะเข้ามามีบทบาทในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยได้รับความไว้วางใจจากทักษิณ ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญต่อเนื่องตั้งแต่ รองนายกฯ รมว.กลาโหม รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
จนกระทั่งปี 2549 เกิดรัฐประหาร โค่นล้ม อำนาจ ทักษิณ ชินวัตร โดย พล.อ.ธรรมรักษ์ นั่งเป็น รมว.กลาโหม ในขณะนั้น ทำให้ถูกมองว่าละเลยการทำหน้าที่ ไม่กำกับดูแลกองทัพ ก่อนจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรค
ในการเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.ธรรมรักษ์ เคยได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคพลังไทยรักไทย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคเพื่อชาติไทย
หากดีลลับระหว่าง“ บิ๊กป้อม - บิ๊กแอ๊ด” สำเร็จ “ภูมิใจไทย” คงต้องเหนื่อยหน่อย เพราะจะเป็นพรรคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่ง “เนวิน ชิดชอบ” ก็น่าจะรู้ชื่อเสียง “พล.อ.ธรรมรักษ์” ในพื้นที่อีสานใต้ โดยเฉพาะ จ.บุรีรัมย์ ได้ดีกว่าใคร