บ้านใหญ่ '3 ส.' ประชาธิปไตยที่งอกจากเขี้ยวงา
บ้านใหญ่ 3 ส. หอมกลิ่นแลนด์สไลด์ “สนธยา-สุชาติ-สมศักดิ์” คืนรังบ้านจันทร์ส่องหล้า ร่วมขบวนโหวตยุทธศาสตร์ ทะลุ 310 เสียง
นักเลือกตั้งแบบ 3 ส. เป็นเผ่าพันธุ์พิเศษที่อยู่รอดในทุกสถานการณ์ พักร้อนตอนรัฐประหาร พอได้ยินเสียงปี่กลองเลือกตั้ง ก็แต่งตัวลงสนาม
ทีมกุนซือพรรคเพื่อไทย วางจังหวะก้าวทางการเมือง หลังประกาศยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ ทะลุ 310 ที่นั่ง เปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. 400 คน และคิกออฟ 8 นโยบายใหม่ ที่เป็นจิ๊กซอว์นำสู่เป้าหมายชัยชนะ
ตามด้วยการเคลื่อนทัพครอบครัวเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ชลบุรี เพื่อเปิดตัวทีมผู้สมัคร ส.ส.ซุ้มบ้านใหญ่แสนสุข สัญลักษณ์แห่งบ้านใหญ่ภาคตะวันออก
ก่อนหน้านี้ สนธยา คุณปลื้ม ได้เจรจากับ สุชาติ ตันเจริญ เห็นพ้องต้องกันว่า การเลือกตั้งปี 2566 บ้านใหญ่ภาคตะวันออก ต้องกลับพรรคเพื่อไทย เพื่อความอยู่รอดของตระกูลคุณปลื้ม และตันเจริญ
สนธยาและสุชาติ นักเลือกตั้งมืออาชีพ มีแนวคิดการเมืองไม่ต่างจาก สมศักดิ์ เทพสุทิน การได้เป็นฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ จะเป็นข้อพิจารณาแรกๆ ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคการเมืองนั้น
วันที่ สมศักดิ์ แถลงข่าวเรื่องการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย มีนักข่าวถามว่า ถ้าเพื่อไทย ชนะแลนด์สไลด์ได้เป็นรัฐบาล ไม่กลัวจะเกิดรัฐประหารหรือ สมศักดิ์ตอบชัดเจน
“เป็นเรื่องนอกระบบ ผมเป็นผู้แทนฯ ตั้งแต่ปี 2526 และเป็นคนเดียวที่ไม่เคยเดินขบวน ผมไม่มีนอกระบบ และผมฝักใฝ่แต่เรื่องของการทำงาน และทำประโยชน์ตามแนวนโยบายของรัฐบาลให้ประชาชนอย่างชัดเจน”
นักเลือกตั้งอย่างสมศักดิ์ สุชาติ และสนธยา เมื่อเกิดรัฐประหารยึดอำนาจ ก็หมายถึงวันพักร้อนแบบยาวๆ มาถึงแล้ว พวกเขารอจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ จึงออกมาโลดแล่นบนเวทีการเมือง
บ้านใหญ่ต้องรอด
หลังตัดสินใจซุกปีก 3 ป. ด้วยเหตุผลทางครอบครัวช่วงปี 2561-2565 สนธยา คุณปลื้ม ทายาทกำนันเป๊าะ-สมชาย คุณปลื้ม ก็เลือกเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย พร้อมเหตุผลใหม่ในการเลือกตั้งปี 2566
เสี่ยแป๊ะ สนธยา อ้างถึงการเลือกตั้งปี 2548 กำนันเป๊าะ ได้นำพลพรรคบ้านใหญ่แสนสุข เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ตามคำเชิญของทักษิณ ชินวัตร และได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ 377 เสียง
สนามเมืองชล พรรคไทยรักไทย ชนะยกจังหวัด 7 ที่นั่งคือเขต 1 สง่า ธนสงวนวงศ์, เขต 2 อัมรินทร์ ตั้งประกอบ, เขต 3 วิทยา คุณปลื้ม, เขต 4 สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ,เขต 5 อิทธิพล คุณปลื้ม ,เขต 6 ชาญยุทธ เฮงตระกูล และเขต 7 พล.ร.ท. โรช วิภัติภูมิประเทศ
สำหรับเลือกตั้ง 66 สนธยา คุณปลื้ม มอบให้คู่ชีวิต สุกุมล คุณปลื้ม นำทัพลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี โดยตัวเขาจะเป็นเสนาธิการ ดูภาพรวมทั้ง 10 เขต
เสี่ยแป๊ะก็หวังจะสร้างปรากฏการณ์ชลบุรีแลนด์สไลด์ เป็นจิ๊กซอว์หนึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมาย 310 เสียง ในทั่วประเทศ เฉพาะชลบุรี ก็คือการรักษาสถานะนำของบ้านใหญ่แสนสุข
แนวคิดกำนันเป๊าะ ที่ตกทอดมาถึงลูกๆ การเมืองมีแพ้ มีชนะ จบการแข่งขันก็คือเพื่อนกัน ดังนั้น พ.ศ.นี้ บ้านใหญ่แสนสุข เลือกเพื่อไทย แต่ พ.ศ.หน้า อาจเปลี่ยนพรรคใหม่ก็ได้ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองในเวลานั้น
บ้านริมน้ำยุคใหม่
สุชาติ ตันเจริญ เป็นนักเลือกตั้งอีกรายหนึ่ง ที่มีการย้ายพรรคเกือบทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยสุชาติ เคยอยู่มาแล้ว 7 พรรค คือพรรคประชาธิปัตย์ ,พรรค ชาติไทย, พรรคสามัคคีธรรม, พรรคไท, พรรคไทยรักไทย, พรรคเพื่อแผ่นดิน, พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ
เลือกตั้ง 66 สุชาติ ตันเจริญ เตรียมเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทย โดยก่อนหน้านี้ ได้ส่งลูกชาย ศักดิ์ชาย ตันเจริญ ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เรียบร้อยแล้ว
หลายคนยังจำชื่อ “กลุ่ม 16” ที่เป็นการรวมตัวกันของนักการเมืองหนุ่ม(ปี 2536-2538) โดยมีรุ่นใหญ่อย่าง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นพี่ใหญ่ ระหว่างปี 2544-2548 อดีตกลุ่ม 16 มารวมตัวกันอยู่ในป้อมค่ายไทยรักไทย หลังรัฐประหาร 2549 พวกเขาก็แยกย้ายกันไป
ปัจจุบัน สุชาติ ยังเกาะเกี่ยวเพื่อนเก่ากลุ่ม 16 จำนวนหนึ่งไว้เป็นคอนเนกชั่นทางการเมือง และการกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าเที่ยวนี้ สุชาติได้ร่วมงานกับสนธยา ซึ่งเมื่อปี 2535 ทั้งคู่ก็อยู่ในกลุ่ม 16
สุชาติ และสนธยา จะกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, ปราจีนบุรี และนครนายก
หาก 2 ส. แห่งอดีตกลุ่ม 16 สามารถผลักดันให้ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ได้เข้าสภาฯตามเป้าหมาย และพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง สุชาติ ตันเจริญ จะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ
สำหรับสนามเลือกตั้ง ส.ส.ฉะเชิงเทรา สุชาติจะส่งลูกชาย มดเล็ก-ศักดิ์ชาย ตันเจริญ ลงสมัคร ส.ส.เขต 3 (อ.พนมสารคาม, อ.สนามชัยเขต และ อ.ท่าตะเกียบ) ซึ่งเป็นที่มั่นของตระกูลตันเจริญ มายาวนานกว่า 30 ปี
การเมืองดินฟ้าอากาศ
เมื่อการเลือกตั้งปี 2548 บ้านใหญ่ศรีสำโรง ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ร่วมขบวนแลนด์สไลด์ 377 เสียง โดย ส.ส.สุโขทัย พรรคไทยรักไทย ประกอบด้วย อนงค์วรรณ เทพสุทิน, ประศาสตร์ ทองปากน้ำ, สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ และประทวน เขียวฤทธิ์
เวลานั้น สมศักดิ์ เทพสุทิน , สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ อนุชา นาคาศัย ตั้งกลุ่มวังน้ำยม มี ส.ส.ไทยรักไทย เข้ามาร่วมเกือบ 80 คน
การเลือกตั้งปี 2550 สมศักดิ์แยกตัวออกจากทักษิณ ชินวัตร ไปตั้งพรรคมัชฌิมาธิปไตย และเกิดกรณีพรรคถูกยุบ จึงเข้าไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย
สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน สมศักดิ์ตั้งกลุ่มมัชฌิมา มี ส.ส. 7 คน อยู่ในพรรคเนวิน เมื่อยิ่งลักษณ์ตัดสินใจยุบสภา ปลายปี 2556 สมศักดิ์และพวกยกทีมไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมกับลงสมัคร ส.ส.ในนามเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ปี 2561 สมศักดิ์และสุริยะ คืนสังเวียนตั้งกลุ่มสามมิตร เดินสายชักชวนอดีต ส.ส.ให้เข้ามาอยู่พรรคพลังประชารัฐ
การเลือกตั้งปี 2566 สมศักดิ์ผู้เชี่ยวชาญทางการเมือง ช่ำชองในกลยุทธ์เลือกตั้ง ย่อมประเมินได้ว่า ใครจะเป็นผู้นำในอนาคต พรรคไหนจะกวาดที่นั่งส.ส.ได้มากที่สุด
นักเลือกตั้งแบบ 3 ส. “สมศักดิ์-สุชาติ-สนธยา” คือภาพสะท้อนการเมืองไทย และสิ่งที่เรียกว่า ประชาธิปไตยที่งอกมาจากเขี้ยวงา