“ทักษิณ” ประกาศ พร้อมกลับมาติดคุกที่ไทย ใช้ชีวิตกับลูกหลาน หวังอุทธรณ์คดี
"ทักษิณ" เปิดใจกับสื่อญี่ปุ่น พร้อมกลับมารับโทษจำคุกที่ไทย ขอใช้ชีวิตกับลูกหลานช่วงบั้นปลาย หวังยื่นอุทธรณ์บางคดี บอกลูกสาวห้ามพรรคเพื่อไทยผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อเขา มั่นใจเพื่อไทยชนะเกินครึ่งสภา ลั่น พปชร.ตัวเลือกสุดท้ายร่วมรัฐบาล
24 มีนาคม 2566 สำนักข่าวเกียวโด และสำนักข่าวนิเคอิ ประเทศญี่ปุ่น รายงานบทสัมภาษณ์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในระหว่างเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น
โดยนายทักษิณ ระบุว่า กำลังรอคอยเวลาที่จะได้เดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นภายในปีนี้ และพร้อมที่จะรับโทษจำคุกแลกกับการได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะออกมาอย่างไรก็ตาม
“ตอนนี้ผมติดอยู่ในคุกขนาดใหญ่มา 16 ปีแล้ว เพราะพวกเขากีดกันไม่ให้ผมอยู่กับครอบครัว ผมทรมานมามากพอแล้ว ถ้าต้องทรมานอีกครั้งในคุกที่เล็กกว่า ก็ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ราคาที่ผมจำเป็นต้องจ่าย แต่ผมก็ยอมจ่าย เพราะผมต้องการอยู่กับหลานๆ ผมควรได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับลูกๆ หลานๆ ของผม” นายทักษิณ กล่าว
ทั้งนี้ นายทักษิณ ยังระบุด้วยว่า เรื่องความปลอดภัยของตัวเขาเอง ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา เพราะเขาเคยถูกลอบสังหารมาแล้วถึง 4 ครั้ง เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายทักษิณ ยืนยันด้วยว่า เขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมจากรัฐสภา แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามามีอำนาจในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ตาม “ผมบอกลูกสาวว่า อย่าปล่อยให้พรรคผลักดันให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผม ผมไม่ต้องการสิ่งนั้น เพราะคนที่ต่อต้านผมจะไม่มีความสุข กฎหมายต้องมีไว้สำหรับคนทุกคน ไม่ใช่เพื่อคนคนเดียว ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้ทหารสามารถครองอำนาจต่อ”
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า การกลับมารับโทษจำคุก ไม่ถือเป็นการทรยศต่อผู้สนับสนุนที่ต่อสู้เพื่อตน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และในการชุมนุมหลายครั้ง ตนก็ไม่ได้ยอมรับว่าทำผิด แต่เป็นเพราะอคติของระบบในอดีตที่รังแกตน
นายทักษิณยังคาดการณ์ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะชนะ ได้เสียงข้างมากในสภา อย่างน้อยจะได้ที่นั่งครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 500 ที่นั่ง และอาจมากถึง 310 ที่นั่ง เพราะคนไทยเบื่อกับการปกครองของรัฐบาลประยุทธ์ และถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง ก็ยังต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคอื่นๆ
“แต่ยากมากที่พรรคเพื่อไทยจะผนึกกำลังกับศัตรูทางการเมือง เช่น พรรคพลังประชารัฐ มันอาจจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ตัวเลือกแรก” นายทักษิณกล่าวและขยายความต่อว่า พรรคเพื่อไทยอาจไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนทหาร ขณะนี้สมาชิกวุฒิสภาหลายสิบคนเป็นอิสระ และพร้อมที่จะลงคะแนนเสียงให้กับพรรคที่ชนะ
นายทักษิณ ยังกล่าวถึง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก วัย 36 ปี ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็น 1 ใน 3 ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยว่า "ลูกสาวของผม เค้าพร้อมแล้วสำหรับชีวิตทางการเมือง เพราะเธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองจากผมตั้งแต่ยังเด็ก เธอจะทำได้ดีกว่าผม เธอใจเย็นกว่าผม อดทนมากกว่าผม และเธอก็มีความรู้มาก"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์