บ้านใหญ่“ตันเจริญ”ยึดตะวันออก “มดดำ”ดัน“สุชาติ”นั่งประธานสภา ?
ภารกิจของ “ลูกมดดำ” จึงต้องผนึกกำลังกับเครือข่าย “พ่อสุชาติ”โกย ส.ส.เข้าสังกัดให้ได้มากที่สุด เพื่อภารกิจส่งบุพการีนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ได้สักครั้ง ก่อนจะวางมือทางการเมือง
ได้ฤกษ์เปิดตัวกับพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับ “เฮียตี๋” สุชาติ ตันเจริญ โดยมีลูกชาย “มดดำ”คชาภา ตันเจริญ พิธีกรชื่อดัง คอยมาให้กำลังใจพ่อไม่ห่างกาย โดย“สุชาติ”ปูทางมาเป็นระยะ หลังสะสมกองกำลังเตรียมย้ายค่าย โดยส่งขุนพลเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นทีมล่วงหน้า
“สุชาติ” มีซุ้มการเมืองของตัวเองชื่อ “ซุ้มบ้านริมน้ำ” เกิดขึ้นมาในยุคพรรคไทยรักไทย ที่มีซุ้ม ส.ส.ผุดขึ้นมากมาย “สุชาติ” ก็ได้รวบรวม ส.ส.อีสานจำนวนหนึ่ง และนักการเมืองท้องถิ่นแถวอีสานเหนือมาอยู่ในสังกัด
สมัยเลือกตั้งปี 2550 มี ส.ส. ซุ้มบ้านริมน้ำ ในสีเสื้อพรรคเพื่อแผ่นดิน มากกว่า 7 คน แต่เลือกตั้ง 2554 ซุ้มบ้านริมน้ำย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย พ่ายกระแส “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ทำให้สอบตกกันหมด
การเลือกตั้งปี 2562 “สุชาติ” พาอดีต ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นซุ้มบ้านริมน้ำ ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏว่า “สุชาติ” ได้เป็น ส.ส.คนเดียว ส่วนคนอื่นแพ้พรรคเพื่อไทยเรียบ
ปัจจุบันสภาพซุ้มบ้านริมน้ำ ไม่เหลืออดีต ส.ส. อยู่ในสังกัด อย่าง “พิกิฏ ศรีชนะ” และ “เวียง วรเชษฐ์” ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ส่วนอดีตนายก อบจ.อีสานเหนือ 5 จังหวัด กระจัดกระจายกันไปต่างทิศต่างพรรค
เท่ากับว่า ซุ้มบ้านริมน้ำต้องปิดฉากไปโดยปริยาย ทำให้ “สุชาติ” ต้องหอบหิ้วทีมงานหาสังกัดใหม่ แถมบางจังหวะยังต้องพึ่งพาบารมี “ลูกมดดำ” ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร หาตั๋วให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในสังกัด
จะว่าไปแล้ว “มดดำ” ไม่ใช่คนแปลกหน้าของแกนนำพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักชาติ (ทษช.) พร้อมรับบทกองเชียร์ ก่อนที่พรรคไทยรักษาชาติจะถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค
มดดำกลับมาช่วย “เพื่อไทย-ตระกูลชินวัตร” อีกในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยผนึกกำลังกับ “มาดามแจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงาน ด้านการเมืองพื้นที่ กทม.พรรคเพื่อไทย ช่วยกันคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.
ว่ากันว่า “ก้อง” อรรฆรัตน์ นิติพน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตประเวศ-สะพานสูง ก็ถือตั๋วช้างจาก “มดดำ” เบียดลงชิงเก้าอี้ในช่วงโค้งสุดท้าย ขณะที่ “ทนายบิลลี่” จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตตลิ่งชัน-ทวีวัฒนา ก็มี มดดำคอยเชื่อมสัมพันธ์กับ “บิ๊กเนม” เพื่อไทย เปิดทางให้เข้าสังกัดพรรคสีแดง
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ “กอล์ฟ”อัครนันท์ กัณณฑ์กิตตินันท์ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 กาญจนบุรี อีกรายที่จัดอยู่ในสายของมดดำ
ขณะเดียวกันบารมีของ มดดำยังส่งเสริมให้ “สุชาติ” มีพาวเวอร์จัดวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออก แม้ฉะเชิงเทราที่เคยเป็นฐานเสียงของตระกูล “ตันเจริญ” จะสิ้นมนต์ขลังไปพอสมควร แต่ยังพอมีคอนเนกชันเก่า ผนวกกับกระแสพรรคเพื่อไทย ที่อาจจะฟื้นบ้านใหญ่ “ตันเจริญ” ให้กลับมาเฟื่องฟูได้
จ.ฉะเชิงเทรา “สุชาติ ตันเจริญ” เคาะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตดังนี้ เขต 1 ฐิติมา ฉายแสง เขต 2 พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ลูกชาย “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ คนรุ่นใหม่ดีกรีอดีตผู้บริหารฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย
เขต 3 ศักดิ์ชาย ตันเจริญ “มดเล็ก” น้องชายหัวแก้วหัวแหวนของ“มดดำ” ชิงพื้นที่ฐานเสียง อ.พนมสารคาม และเขต 4 วุฒิพงศ์ ฉายแสง
แม้ว่า "ตระกูลฉายแสง" จะมี “จาตุรนต์ ฉายแสง” เป็นพี่ใหญ่ทางการเมือง แต่ชื่อ “จาตุรนต์” กับ “สุชาติ” ขบเหลี่ยมการเมืองมาตลอด แตกต่างจากทั้ง“ฐิติมา-วุฒิพงศ์”ไร้ปัญหา หากต้องร่วมงานกับ “สุชาติ”
ส่วน จ.ระยอง วางตัวผู้สมัคร เขต 1 พเนตร วงษ์ไพศาล เขต 2 ภีมเดช อมรสุคนธ์ เขต 3 ชัยณรงค์ สันทัสนะโชค เขต 4 วิเชียร สุขเกิด และเขต 5 วิชัย ล้ำสุทธิ ซึ่งอยู่ภายใต้ร่มเงาของ “สุชาติ” ทั้งหมด โดยอาศัยเครือข่ายของคนเสื้อแดงช่วยหนุนอีกแรง
โดยในรายของ “วิชัย” เคยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน แถมร่วมม็อบ กปปส. มาด้วย แต่พื้นที่ค่อนข้างปึ้ก จึงเหลือเพียงทำความเข้าใจกับ “แดงระยอง”
จ.จันทบุรี เขต 1 จักรพรรณ พลอยพานิชย์ เขต 2 วันทิตย์ ตั้งรักษาสัตย์ และเขต 3 แสนคม อนามพงษ์ รวมถึง จ.ตราด เขต 1 ทินวัฒน์ เจียมอุย “สุชาติ” วางเครือข่ายใต้ดิน “ขาใหญ่” ในพื้นที่ช่วยเป็นแรงหนุน
จ.ปราจีนบุรี เขต 1 กฤษณ์กมล แพงศรี เขต 2 สมเกียรติ คำดำ และเขต 3 คงกฤช หงษ์วิไล แม้จะยากที่ต้องสู้ “บ้านใหญ่วิลาวัลย์” แต่มรสุมคดีรุกป่าของพ่อ-ลูก “สุนทร วิลาวัลย์” และ “กนกวรรณ วิลาวัลย์” อาจทำให้ลูกทีมบ้านใหญ่“ตันเจริญ” คว้าเก้าอี้ ส.ส.มาได้ โดยเฉพาะ “คงกฤช หงษ์วิไล” ที่พอมีฐานเสียง
ภารกิจของ “ลูกมดดำ” จึงต้องผนึกกำลังกับเครือข่าย “พ่อสุชาติ”โกย ส.ส.เข้าสังกัดให้ได้มากที่สุด เพื่อภารกิจส่งบุพการีนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ได้สักครั้ง ก่อนจะวางมือทางการเมือง