แผนสกัด “นายกฯอนุทิน” “ทนายตั้ม” ฮีโร่ภูมิใจไทย
ตามที่ “บิ๊กทหาร”เคยประเมินไว้ “อนุทิน” คือ นายกฯ คนต่อไป หาก พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากเก้าอี้ เพียงแต่ “คอนเน็กชั่น” ที่มี ทำให้ อนุทิน สะดุดตอใหญ่เข้าอย่างจัง จึงเกิดปฏิบัติการไล่ทุบไล่ตี "ภูมิใจไทย" อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
หลังปรากฎตัวละครใหม่อย่าง “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายเพื่อประชาชนฯ มาผสมโรงด้วยการเปิดข้อมูลเบื้องหลังการรับเงินของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” จาก “สารวัตรซัว” เจ้าของเว็บพนันจำนวน 6 ล้านบาท หวังปิดปากเรื่องลาลิซ่าอาบอบนวด
ส่วน “ชูวิทย์” แม้จะยอมรับว่า รับเงินมาจริง แต่ได้นำไปบริจาค พร้อมเอาคืนด้วยการเปิดใบเสร็จค่าจัดแถลงข่าวเป็นเงิน 3 แสนบาทของ “ทนายตั้ม” และเตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีกคดีละ 100 ล้านบาท
ขณะที่ “พรรคภูมิใจไทย” อยู่ระหว่างเพลี่ยงพล้ำต่อปฏิบัติการทำลายคะแนนนิยมของ “ชูวิทย์” ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไม่น้อย ในช่วงจะมีการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่การเปิดศึกระหว่าง“ชูวิทย์-ทนายตั้ม” เบี่ยงความสนใจได้อยู่หมัด
เป็นที่รู้กันว่า ก่อนหน้านี้ ชูวิทย์ ได้สร้างความปั่นป่วนให้ “ภูมิใจไทย”แบบคาดไม่ถึง ด้วยการออกมาเคลื่อนไหวโดยอ้างว่าเป็นการตรวจสอบการทุจริตในกระทรวงต่างๆ ภายใต้การกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย
เริ่มจากความผิดปกติการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ปมตั้งข้อสังเกตเงินทอน 30,000 ล้านบาท นโยบายกัญชา โดย “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะเยาวชน ตลอดถึงการเปิดเผยข้อมูลเขากระโดงในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
ประจวบเหมาะ "ศาลรัฐธรรมนูญ" สั่งให้เลขาธิการพรรค ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีถูกร้องปมถือหุ้นและเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจํากัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เพียงไม่กี่วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศยุบสภา
สถานการณ์เข้าทาง ชูวิทย์ เดินหน้าเขย่า“ภูมิใจไทย” ต่อเนื่องด้วยการยื่นร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ยุบพรรคในความผิดตามมาตรา 72 ปมรับเงินบริจาคพรรคการเมืองโดยมิชอบของ “ศักดิ์สยาม”เลขาธิการพรรค พร้อมประกาศรณรงค์ให้ประชาชนไม่เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย
งานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 33 เขต กทม.ของพรรคภูมิใจไทย เมื่อ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้เห็นภาพ “ชูวิทย์” ถือป้ายที่เขียนข้อความต่อต้าน และวิ่งลงไปบนถนนพหลโยธินประกบขบวนรถหาเสียงพร้อมประกาศ “อนุทิน ไปไหน ชูวิทย์ ก็จะตามไปด้วย”
ด้าน ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ตั้งข้อสังเกตถึงปฏิบัติการของ “ชูวิทย์”ว่า มีเจตนาซ่อนเร้น ใช้เสรีภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการรับงานจากกลุ่มเสียประโยชน์มุ่งร้ายทำลายพรรคภูมิใจไทย พร้อมเดินหน้าดำเนินการกับบุคคลใดก็ตามที่เข้ามากล่าวร้าย บิดเบือนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และจะไม่ยอมให้กระบวนการที่ทำเหมือนเป็นศาลเตี้ยเข้ามาจนทำให้กระบวนการทางกฎหมายสั่นคลอน
ส่วนแหล่งข่าวทางทหาร ให้จับตาปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะในอดีตเป็นการโจมตี ดิสเครดิต พรรคการเมืองในขั้วตรงข้าม แต่ปัจจุบันเป็นการโจมตีขั้วการเมืองเดียวกัน เพราะเขาไม่ยอมให้มีตาอยู่ มาคว้าพุงปลาไปกินง่ายๆ
ส่วนชูวิทย์ ก็เปรียบเสมือนผู้เล่นอิสระ ยังไม่ทราบฝ่ายที่ชัดเจน แต่ถูกวางบทบาทให้โจมตีทุกพรรคการเมือง หลังออกมาเปิดประเด็นทุนจีนสีเทา ที่เกี่ยวพันกับทุกพรรคการเมือง ก่อนจะมาลงล็อกที่ภูมิใจไทย
ต้องยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ “อนุทิน”ได้ปูทางตัวเองด้วยการเดินหน้าสร้างคอนเนกชั่นสานสัมพันธ์กับคนในกองทัพ เข้าเรียนหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 61 เมื่อปี 2560 เพราะหนึ่งในคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็น “นายกฯ” ต้องคุมกองทัพได้
หากเลือกตั้งรอบนี้ “อนุทิน”ได้เป็น “นายกฯ” หันไปดู “บิ๊กเหล่าทัพ” ล้วนแล้วเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.ทั้งสิ้น “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กจ๊อด” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. ว่าที่ ผบ.ทบ.คนต่อไป
ครบรอบวันเกิด 64 ปี เมื่อปีที่แล้วของ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงกับประกาศเอาตำแหน่งครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เป็นเดิมพัน หากเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สู้ให้ “อนุทิน” เป็น นายกฯ ก็พร้อมลาออก
กับกระแสมาแรงเนื้อหอมของ “ภูมิใจไทย” เพราะเป็นพรรคที่มีเอกภาพ ไร้ความขัดแย้ง หรือแรงกดดันทั้งภายใน-ภายนอก จึงเกิดปรากฏการณ์ ส.ส.จากพรรคอื่นแห่ย้ายเข้ามาอยู่ในสังกัด และมีแนวโน้มจะขยับจากพรรคขนาดกลาง เป็นพรรคขนาดใหญ่ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีชื่อ “อนุทิน” เป็นแคนดิเดตนายกฯ
แต่“พรรคภูมิใจไทย” กลับเจอปฏิบัติการดิสเครดิตเสียก่อน แม้ “พล.อ.ประยุทธ์ ”จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง หลังเปิดทำเนียบรัฐบาล ต้อนรับการมาเยือนของ “ชูวิทย์” ที่ต้องการเข้าพบเพื่อมอบข้อมูลเกี่ยวกับการคอร์รัปชันของกระทรวงที่อยู่ในการดูแลของภูมิใจไทย แต่ก็ไม่ใช่ผู้เดินเกมตัวจริง
วิเคราะห์กันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับภูมิใจไทยเป็นเพราะ “อนุทิน” มี “คอนเน็กชั่น” บางอย่างที่แคนดิเดตนายกฯพรรคอื่นไม่มี ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทย “อุ้งอิ๊ง” แพรทองธาร ชินวัตร เศรษฐา ทวีสิน
ตามที่ “บิ๊กทหาร”เคยประเมินไว้ “อนุทิน” คือ นายกฯ คนต่อไป หาก พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากเก้าอี้ เพียงแต่ “คอนเน็กชั่น” ที่มี ทำให้ อนุทินสะดุดตอใหญ่เข้าอย่างจัง แบบไม่ทันตั้งตัว จึงเกิดปฏิบัติการไล่ทุบไล่ตีภูมิใจไทยอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ส่วน “ทนายตั้ม” ก็เข้ามาถูกที่ ถูกเวลา ทำให้ “ภูมิใจไทย” ได้หายใจหายคอคล่องขึ้น ในการแก้เกม และเตรียมแผนตั้งรับกับปรากฏการณ์ที่คาดไม่ถึง
เพราะเลือกตั้งนี้ หากปล่อยให้ “อนุทิน” เป็นนายกฯ เกมที่วางไว้ก็โอเวอร์ทันที แล้วแบบนี้ใครจะยอม