“ศุภชัย” ป้อง"ตระกูลชิดชอบ"ยัน ศาลสั่งตั้งกก.สอเขากระโดง คดียังไม่สิ้นสุด
“ศุภชัย” แถลงยัน คำสั่งศาลปกครองกลาง สั่งกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบถือครองเขากระโดง กระบวนการยังไม่สิ้นสุด ยืนยันยังไม่ชี้ขาดที่ดิน900 กว่าแปลงเป็นของการรถไฟ เตือนหยุดใส่ร้ายตระกูลชิดชอบ
ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ยื่นฟ้องกรมที่ดินกับพวกรวม2คน ละเลยไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา61แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมสั่งให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา61 ให้แล้วเสร็จภายใน60วันว่า ศาลปกครองได้วินิจฉัยกรณีดังกล่าว โดยเห็นว่า กรมที่ดินที่มีหน้าที่ดูแลแผ่นดิน ต้องเข้าไปปกป้องคุ้มครองในบริเวณนั้น และจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ยังไม่ได้วินิจฉัยว่าที่ดินทั้ง 900 กว่าแปลง ในพื้นที่5,083ไร่เป็นที่ดินของการรถไฟฯแต่ประการใด แต่เป็นกรณีที่กรมที่ดินจะต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งสาเหตุมาจากการละเลยไม่เข้าไปดูแลปกป้อง
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ศาลฯได้สั่งให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 นั้น คือการที่จะต้องไปดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ว่าที่ดินแต่ละแปลง กรมที่ดินได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้ผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละแปลงไป ประมาณ900กว่าแปลงในพื้นที่5,083ไร่ ไม่ได้หมายความตามที่มีการเสนอข่าวว่า กรมที่ดินแพ้คดีเพราะศาลฯตัดสนอว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของการรถไฟฯ
ดังนั้นกรณีนี้เป็นการวินิจฉัยในขั้นของศาลฯชั้นต้นเท่านั้น กรมที่ดินมีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลฯ สิ่งที่ศาลฯมีคำสั่ง
ทั้งนี้หากย้อนกลับไป นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้การรถไฟฯฟ้องคดีกรมที่ดินเพื่อแสดงให้เห็นว่าการรถไฟฯมีสิทธิ์ในที่ดินหรือไม่อย่างไร ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายศักดิ์สยามไม่ได้เพิกเฉย แต่มีคนไปบิดเบือนว่านายศักดิ์สยาม ไม่ยอมใช้อำนาจ หรือใช้อำนาจโดยไม่ชอบที่จะได้ที่ดินมา ยืนยันว่าวันนี้การพิสูจน์สิทธิ์เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
“การกล่าวหาตระกูลชิดชอบ จริงๆแล้วตระกูลชิดชอบอยู่ในพื้นที่เพียง1-3แปลง จาก900กว่าแปลง ไม่ได้เกี่ยวไปถึงนายชัย ชิดชอบเข้ามาฮุบที่ดิน ถือเป็นการบิดเบือน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงพรรคภูมิใจไทยด้วย ความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับการรถไฟฯในเรื่องนี้มีมายาวนาน40-50ปีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดนี้ประชาชนได้ที่ดินมาไม่สุจริต ความจริงเป็นเรื่องที่ได้ที่ดินมาโดยสุจริต กรมที่ดินจึงออกเอกสารสิทธิ์ แต่ในฐานะพรรคการเมือง
จึงมีความเป็นห่วงว่า หากกรมที่ดินไม่ได้อุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด โดยยุติอยู่แค่นี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินคือพิสูจน์แล้วที่ดินทุกแปลงที่ถูกพิสูจน์สิทธิ์จะต้องถูกอายัติ จะไม่สามารถนำไปทำนิติกรรมใดๆทั้งสิ้น ผลกระทบความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ได้ที่ดินมาโดยสุจริต ก็อยู่ที่กรมที่ดินจะตัดสินใจอุทธรณ์หรือไม่” นายศุภชัย กล่าว