'ราเมศ รัตนะเชวง' เขต 2 พังงา พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหา เชื่อ ปชช.ให้โอกาส
"ราเมศ รัตนะเชวง" เขต 2 พังงา เบอร์ 5 เชื่อมั่นในประสบการณ์ตัวเอง พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนตามนโยบายพรรคที่ได้หาเสียงไว้ เชื่อปชช.ยังให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ทั้งคนทั้งพรรค
เมื่อวันที่3 เมษายน 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพังงา เขต 2 และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังจากจับฉลากได้หมายเลข 5 โดยได้พูดถึงแนวทางสำหรับการหาเสียงถัดจากนี้ว่า ตนเชื่อในกระบวนการประชาธิปไตยสุจริต และถือว่าเรื่องนี้เป็นการตั้งต้นของการอาสาทำงานให้พี่น้องประชาชน สำหรับการลงพื้นที่พบปะประชาชนนั้นยอมรับว่าตนเป็นน้องใหม่ แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็มีโอกาสลงพื้นที่ ซึ่งได้เน้นเรื่องการเข้าพบและรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
รวมถึงก่อนหน้าที่จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการหาเสียงออกมา ตนยังดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการประธานรัฐสภา และเป็นโฆษกพรรค รวมถึงในช่วงปลายรัฐบาลตนก็ได้เลื่อนลำดับเป็น ส.ส. จึงใช้โอกาสเหล่านี้เพื่อนำปัญหาต่าง ๆ ของพี่น้องประชาชนไปสะสางและแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จ พร้อมกับรวบรวมสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในเขตต่าง ๆ ทั้ง 4 อำเภอ ตั้งแต่ ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี และกะปง
สำหรับมาเสนอให้กับพรรคประชาธิปัตย์ไปจัดทำเป็นนโยบาย ซึ่งมีหลายเรื่องที่ตนนำไปผลักดันจนเป็นนโยบายหลักของพรรค โดยเฉพาะเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งจะเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี และในช่วงที่ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล ก็เร่งรัดให้มีการออกโฉนดที่ดินไปแล้วเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีอีกนโยบายคือ การออกกรรมสิทธิ์ทำกินในที่ดินของรัฐ
ซึ่งตนก็เป็นผู้ร่วมผลักดันให้เกิดเป็นนโยบายพรรคเช่นกัน และยังไม่รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ในพื้นที่ เช่น การท่องเที่ยว การศึกษา ปัญหาสังคม ซึ่งก็ได้รวบรวมสภาพปัญหาและเชื่อว่าหากตนได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดพังงา ก็พร้อมที่จะผลักดันเพื่อเกิดการแก้ปัญหาโดยให้เป็นไปตามนโยบายของพรรคที่ได้ประกาศไว้ในการหาเสียง
นายราเมศ ยังกล่าวอีกว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง จะเห็นได้ว่าในระยะ 77 ปีที่ผ่านมา ได้มีนโยบายที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนไว้มากมาย ดังจะเห็นได้จากนโยบายที่สำคัญ อย่างโครงการนมโรงเรียน โครงการที่เกี่ยวกับการศึกษา เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ กองทุน กยศ. เป็นต้น ล้วนเป็นนโยบายที่ริเริ่มจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น
“นโยบายที่ดี ๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ริเริ่มใหม่ ผมในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ พร้อมที่จะบอกพี่น้องประชาชนว่าสิ่งเหล่านี้คือความหวัง ถ้าเลือกผมเข้าไปเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมพร้อมที่จะนำนโยบายต่างๆ ทั้งส่วนที่ได้สานต่อนโยบายเดิม และนโยบายใหม่ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และประเทศชาติให้ดีที่สุด” นายราเมศ กล่าว
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความหนักใจในการทำพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค หรือไม่นั้น นายราเมศ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความหนักใจเลย พี่น้องชาวปักษ์ใต้ยังมีความนิยมชมชอบ มีความรักความศรัทธา และความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ที่ทำให้ตนเร่งพบพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์นั้นดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดพังงามีฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์อยู่มาก จึงต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้สนับสนุนพรรคต่อไป
“ผมไม่ได้กังวลถึงความเป็นบ้านของท่านหัวหน้าพรรค เป็นเพราะผมเชื่อในผลงานต่าง ๆ ที่ผ่านมาของท่านจุรินทร์ ที่ได้ทำประโยชน์ไว้ให้กับประชาชนจังหวัดพังงามากมายหลายโครงการ ที่สำคัญผมเชื่อว่าคนชื่อ นายจุรินทร์ ได้สร้างชื่อเสียง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับพี่น้องชาวพังงาจากการได้ทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ และจากผลงานก็ปรากฎชัดว่าท่านมิได้ทำเฉพาะที่พังงาจังหวัดเดียว แต่สิ่งที่ท่านจุรินทร์ เริ่มทำไว้นั้นได้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากมาย หลายโครงการ และหลายนโยบายก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” นายราเมศ กล่าว