“โรม” ท้า “อุปกิต” เปิดสัญญาเช่าตึก รทสช. ฝากหน่วยงานรัฐเร่งสอบ
“โรม ก้าวไกล” ไม่ปล่อย! ตอบกลับ “ส.ว.อุปกิต” อีกรอบ ปมกล่าวหาพัวพันเครือข่าย “ทุน มิน ลัต” ชี้เป็นสิทธิเปิดเผยอีก 88 องค์กรพัวพันค้ายา แต่ฝากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ตัวเองด้วย ท้าแน่จริงเปิดสัญญาเช่าตึก รทสช. เตือนอย่าเล่นนอกกติกา
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2566 นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงข่าวครั้งที่ 2 ของนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ที่งัดเอาข้อมูลว่า บัญชีม้าในคดีฟอกเงินยาเสพติดนั้นมีการโอนเงินไปยังบัญชีอื่นๆ ของทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลอีกถึง 86 บัญชี ทำไมมีแค่ตนคนเดียวที่ถูกกล่าวโทษ ถ้านายรังสิมันต์ โรม ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่คิดกลั่นแกล้ง ไม่หวังผลทางการเมือง ก็ขอให้ไปตรวจสอบ 86 บุคคลและบริษัทเหล่านั้นด้วยนั้น
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในประเด็นนี้ตนทราบว่าทางนายอุปกิตก็ไปยื่นข้อมูลให้กับทางอัยการด้วยเช่นกัน หากท่านต้องการช่วยชี้เบาะแสเผื่อว่าจะมีใครกระทำผิดฟอกเงินค้ายาอีกหรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะกระทำได้ แต่หากว่าทำไปเพียงเพื่อจะซัดผมว่าปฏิบัติต่อท่านอย่างไม่เป็นธรรมนั้น ต้องขอเรียนต่อ นายอุปกิตว่าการที่มาพูดอภิปรายเรื่องฟอกเงินค้ายาเสพติดได้นั้น จำเป็นต้องมีหลักฐานสนับสนุนหลายๆ อย่างมาประกอบกัน อย่างความเชื่อมโยงทางการเงินก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้าลำพังมีแค่หลักฐานนี้อย่างเดียวเช่นที่ท่านอ้างถึง 86 บุคคล/บริษัทนั้น ก็คงยังไม่เพียงพอที่จะอภิปรายได้ ท่านก็เคยพูดเองมิใช่หรือว่าคนที่ค้ายาเขาไปซื้อขายอะไรใดๆ ไม่ได้หมายความว่าร้านค้าเหล่านั้นจะต้องเป็นผู้ฟอกเงินทั้งหมดเสมอไป แต่จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในกรณีของนายอุปกิต หากว่าหลักฐานมีแค่เรื่องเส้นทางการเงินระหว่างผู้ค้ายากับเครือบริษัท Allure เพียงแค่นี้เท่านั้น คงไม่เอามาอภิปรายตั้งแต่แรก แต่ที่ตัดสินใจเอามาอภิปรายก็เพราะมีหลักฐานอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ข้อความแชท หรือคำให้การของทุนมินลัตและคนอื่นๆ ที่โดนจับไปก่อนหน้านี้ ที่พิจารณาแล้วเห็นว่าหนักแน่นเพียงพอที่จะต้องพูดออกมาให้สังคมได้ตระหนัก และช่วยการติดตามกระบวนการคดีไม่ให้เตลิดออกนอกลู่นอกทางได้
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า เรื่องข้อความแชท วันนี้นายอุปกิตก็ยังพูดเหมือนเดิมว่าแปลผิดแปลมั่ว ตนก็เคยบอกไปแล้วว่าข้อความที่คุยกันมันเป็นศัพท์ขั้นพื้นฐานมากๆ ไม่ได้เกินความเข้าใจของคนเคยเรียนภาษาอังกฤษมา ยังอ้างว่าคุยกันเรื่องโรงปูนบ้าง เรื่องทองบ้าง เคยบอกไปแล้วว่านั่นแค่ส่วนนอกเรื่องน้อยนิดที่ปะปนมา แชทส่วนใหญ่คุยเรื่องการคุมงาน Allure ทั้งนั้น พอมารอบนี้มีอ้างเพิ่มเติมด้วยว่าตำรวจไปตัดต่อแชทเก่าๆ ของตนเพื่อมาใส่ร้าย ก็รอติดตามในคดีต่อไปแล้วกันว่ามันจะใช่อย่างที่ท่านอ้างไหม
“ส่วนที่กล่าวหาว่าเอาเรื่องหลายเดือนก่อนมาพูดตอนนี้เพราะเป็นขบวนการหวังผลการเมือง พยายามโยงมาถึงพรรคที่ผมสังกัด ก็ต้องย้ำอีกครั้งว่าผมตั้งใจเอาเรื่องนี้มาพูดในวาระอภิปรายทั่วไปเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตัวผมไม่มีอำนาจอะไรเลยที่จะไปกำหนดได้ว่าจะอภิปรายกันเมื่อไหร่ ทีแรกยังเคยนึกว่าจะมีในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ด้วยซ้ำ อีกอย่างคือเรื่องนี้ก็ต้องใช้เวลาเตรียมข้อมูลด้วย ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุ 2-3 แล้วจะให้รีบพูดเลยได้ และผมเชื่อว่าสังคมมีวิจารณญาณพอที่จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นแค่การป้ายสีเลื่อนลอย หรือเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือกันแน่” นายรังสิมันต์ กล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า เห็นข่าวอีกว่านายอุปกิตยังยืนยันว่าที่ดิน และตึกของตนที่ตอนนี้เป็นที่ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้นตนไม่รู้เรื่องว่าจะเอาไปทำพรรคการเมือง ไม่ได้สนับสนุนอะไรต่อพรรคนี้ ไหนๆ แล้วท่านก็เอาสัญญาเช่ามากางให้ดูเสียเลยจะเป็นไร ส่วนหนึ่งที่ท่านพลอยติดร่างแหเรื่องนี้ไปด้วยก็เพราะฝั่งพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้เองด้วย แต่ถ้านายอุปกิตไม่ได้มีนอกมีในอะไรอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเสียหายอะไรที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ นอกจากนี้ในเมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าผู้เช่าเอาไปทำพรรคการเมือง นายอุปกิตก็ควรพิจารณาไม่ต่อสัญญาเช่าเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาสืบต่อไปอีกด้วย
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ถึงที่สุดแล้วในเรื่องนี้ ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่จริงๆ มากไปกว่าตนที่เป็นกระบอกเสียงให้ในช่วงที่ผ่านมา ก็คือบรรดาหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ที่เคยได้กล่าวถึงและร้องเรียนไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ, อัยการ, ป.ป.ช., ปปง., ป.ป.ส. และ ก.ต. ที่จะต้องเดินหน้าการสอบสวนไต่สวนและพิจารณาทั้งคดีและความไม่ชอบมาพากลที่แวดล้อมต่อไป ถึงตอนนี้ยังมีหลายประเด็นที่ค้างคา ตัวนายอุปกิตยังไม่ถูกแจ้งข้อหายาเสพติดทั้งที่พยานหลักฐานชุดเดียวกับทุนมินลัตและพวก แล้วจะแจ้งเมื่อไหร่ การยึดอายัดทรัพย์สินไม่ให้ถูกยักย้ายหนีได้ดำเนินการหรือยัง เรื่องผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับคืบหน้าถึงไหนแล้ว เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นอย่างไรบ้าง เป็นต้น หวังว่าหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เสียแรงที่ข้าราชการชั้นผู้น้อยเขาทำงานกันอย่างแข็งขันและซื่อตรง
“ส่วนที่ ส.ว.อุปกิตบอกว่าจะมี "ของขวัญ" เตรียมไว้ให้กับผม หากนั่นเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายที่ท่านมี เช่นที่เคยฟ้องหมิ่นประมาทผมไปนั้น ก็แล้วแต่ท่าน ผมยืนยันว่าผมปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและพร้อมต่อสู้คดีถึงที่สุด แค่อย่าเล่นนอกกติกาก็แล้วกัน” นายรังสิมันต์ กล่าว