"รทสช." มั่นใจ ปักธง ส.ส.กทม. แน่ ชู นโยบายทหารอาสา เพิ่มสิทธิ สวัสดิการ รายได้
"เอกนัฏ" ขนทัพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. "รทสช." พบสื่อเครือเนชั่น เผย เตรียมปราศรัยใหญ่ 12พ.ค. ลานคนเมือง เมิน โพลเมืองหลวง ไม่แม่น ผลเลือกตั้ง หักปากกาเซียนตลอด ลั่น เลือกลุงตู่ ไร้ความเสี่ยง ทำให้เห็นแล้ว ชู นโยบายอัพเกรด เกณฑ์ทหาร เป็น "ทหารอาสา" สัด 70% เพิ่มสิทธิ สวัสดิการ รายได้
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค นำผู้สมัคร ส.ส.กทม. พบปะกับสื่อในเครือเนชั่น เพื่อนำเสนอนโยบายสร้างความเข้าใจต่อประชาชน
โดยนายเอกนัฏ เปิดเผยว่า พรรครทสช. มีความพร้อมเกิน100% ผู้สมัครของเราออกเดินพบปะประชาชนทุกวันตั้งแต่เช้ามืด จนถึงมืดค่ำ เพราะเรื่องนี้สำคัญที่สุด เที่ยวนี้เรามั่นใจจากการได้พบปะประชาชน กระแสดีวันดีคืน จะสามารถเอาชนะเลือกตั้งในกทม.ได้ ไม่มีอะไรกังวล พรรคเราเปรียบเป็นหุ้นขาขึ้น คาดหวังจะได้ส.ส. ทั้ง 33 คน และในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ที่ลานคนเมือง กทม.
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในส่วนของโพลบางสำนักที่สำรวจความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาลำดับ3 นั้น กทม.โพลไม่เคยแม่น เช่น ปี 54 สมัยตนลงสมัคร ส.ส. โพล ระบุว่า แพ้คู่แข่งประมาณ 20% แต่พอเลือกตั้งตนก็ชนะ หรือตอนปี 62 โพลพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าจะได้ส.ส.2 คน พอเลือกตั้งเสร็จกลับได้ถึง 12 คน ดังนั้น การเลือกตั้งไม่ใช่เลือกแค่คนที่ชอบเท่านั้น ต้องเลือกเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี เลือกความเจริญก้าวหน้าด้วย
"สำคัญที่สุดคือจิตวิญญาณความเป็นผู้แทนราษฎร ต้องเห็นปัญหาและทำเพื่อความสะดวกสบายของประชาชน ทำเพื่อส่วนรวมของประเทศ เป็นคุณสมบัติหลักของผู้สมัคร รทสช. ต้องเปิดโอกาสคนรุ่นใหม่ ทำงานกันเป็นทีม เป้าของผมคือทั้ง 33 เขต ผู้สมัครบางคนทำงานในบริษัทใหญ่มาก่อน ได้เงินเป็นล้าน เขามีต้นทุนชีวิต ผมถึงต้องสู้ทุกพื้นที่ กทม.ไม่ใช่สนามเด็กเล่นเอาชีวิตคนมาเสี่ยงไม่ได้ และการเลือกลุงตู่ จึงไม่มีความเสี่ยง ทำให้เห็นมาแล้ว ทุกอย่างเดินหน้าต่อ วันนี้ทุกอย่างกำลังดีขึ้น มีเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ" นายเอกนัฏ กล่าว
นายเกรียงยศ เปิดเผยว่า ตนได้บอกผู้สมัครต้องขยันลงพื้นที่ ต้องแวะทุกบ้าน เพื่อรับฟังปัญหาเอาใจเขามาใส่ใจเรา และเมื่อได้รับทราบปัญหาก็นำมาหารือกับผู้ใหญ่ของพรรค ก่อนจะเอาความคืบหน้ากลับไปบอก หรือพาผู้ใหญ่ของพรรคลงพื้นที่ไปบอกด้วยตัวเอง ซึ่งนโยบายพรรคได้รับการตอบรับดี เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส 1,000 บาท หรือกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เน้นย้ำมาตลอดคือรื้อกฎหมาย ขจัดอุปสรรคเพื่อช่วยชาวบ้านให้เข้าถึงโอกาสมากขึ้น
ขณะที่น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ อดีตส.ส.กทม. ในฐานะผู้สมัครส.ส. กทม. เขตบางกะปิพรรครทสช. กล่าวว่า กระแสตอบรับวันนี้ดีกว่าการเลือกตั้ง ปี62 เพลงหาเสียงลุงตู่อยู่ไหน เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ผ่านไปที่ไหนก็จะเปิดประตูออกมาโบกมือทักทาย ซึ่งตนมีความหวัง เพราะตลอด4ปี ที่เป็นส.ส. ลงพื้นที่ทุกวัน ยกเว้นวันที่มีการประชุมสภา เลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการแข่งกับตัวเอง และหวังว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจ ตอบรับในผลงานของตนรวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรครทสช.
ขณะที่นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ผู้สมัครส.ส.กทม เขตสวนหลวง พรรครทสช. เปิดเผยถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับทหารเกณฑ์ว่า พรรคเรามีนโยบายทหารอาสา ไม่ได้ยกเลิกการเกณฑ์100% เนื่องจากทหารเกณฑ์เป็นฮีโร่ทำงานปกป้องชายแดนให้กับประเทศ โดยจะแบ่งสัดส่วนเกณฑ์ 30% ที่เหลืออาสา 70% จะมีการเพิ่มสิทธิ สวัสดิการ มีรายได้มากขึ้น และได้เรียนจนจบปริญญาตรี