“เศรษฐา” เมินเสียงวิจารณ์ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” พร้อมแจงต่อ กกต.
“เศรษฐา” ไม่หวั่น เสียงวิจารณ์นโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท พร้อมแจงทุกวัน แม้เหลือเงิน 2 แสนล้าน ก็เดินหน้าได้ไม่สะดุด เชื่อถูกพูดถึงเยอะ เพราะนโยบายโดนใจประชาชน แต่ไม่ขอด้อยค่านโยบายพรรคอื่น
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า สามารถทำได้จริง และเป็นนโยบายที่ตรงใจกับประชาชน ไม่มีปัญหาต่อสถานะการเงินการคลังของประเทศ เพราะทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ได้คิดมาอย่างรอบคอบแล้ว แต่หากจะให้นำนโยบายนี้ไปเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองอื่นก็คงจะไม่ใช่ทางของตนเอง หากลองศึกษานโยบายดูจะพบว่าในบางพรรคการเมืองใช้เงินค่อนข้างมาก เช่น กรณีจ่ายเงิน 700 บาท ต่อเดือนให้ผู้มีสิทธิกว่า 20 ล้านคน ก็ใช้งบประมาณกว่า 8 แสนล้านบาทแล้ว ซึ่งการให้แบบนี้เป็นการให้แบบหยอดน้ำข้าวต้ม แต่ของพรรคเพื่อไทยเป็นการให้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ หลังประชาชนเดือดร้อนกันมานาน
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มีหน้าที่เดินสายพบปะประชาชน และกระจายนโยบายให้ประชาชนรับทราบ พร้อมรับข้อคิดเห็นเพื่อนำมาปรับดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการประชาชน มั่นใจทุกนโยบายฝ่ายกฎหมายจะสามารถชี้แจงกับ กกต. ได้ และเมื่อได้เข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วจะสามารถเดินหน้านโยบายได้โดยไม่มีอุปสรรค และจะทันต่อที่เคยประกาศไว้ว่าจะเริ่มต้นนโยบายได้ทันทีต้นปี 2567 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประกาศรับรอง ส.ส. ด้วยว่าขั้นตอนดังกล่าวจะรวดเร็วเพียงใด
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ส่วนที่หน่วยงานด้านการเงินการคลังของประเทศเป็นห่วงเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่เหลือให้ใช้จ่ายได้อีก 2 แสนล้านบาท อาจจะไม่เพียงพอต่อการทำนโยบายประชานิยมนั้น ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย สามารถหาเงินมาเติมได้ ภายใต้อัตราการเก็บภาษีเท่าเดิม ทั้งภาษี VAT และภาษีบุคคล ซึ่งทีมเศรษฐกิจได้คิดถึงช่องทางการหาเงินงบประมาณไว้หมดแล้ว และไม่กระทบกับเรื่องค่าเงินบาท ไม่ได้เกี่ยวข้องเงินสกุลอื่นๆ
“เชื่อว่าการที่หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายนี้อาจเป็น เพราะเป็นนโยบายที่โดนใจได้รับความสนใจจากประชาชนมาก และพรรคอื่นอาจจะกังวลใจที่เพื่อไทยออกนโยบายนี้ ซึ่งนั่นเป็นเพราะพรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น ทั้งนี้ ตลอดการหาเสียง หากยังถูกโจมตีเรื่องนี้อยู่ก็ไม่กังวล และเชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน หากมีผู้ถามทุกวัน ก็จะตอบทุกวัน” นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนที่ กกต. คอยเตือนให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงรายละเอียดของนโยบายนี้โดยตลอดนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ขอมองว่า กกต. พุ่งเป้าเพื่อจะเอาผิดกับพรรคเพื่อไทย แต่ กกต. ทำตามหน้าที่ และพรรคก็พร้อมเคารพต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ