‘ฐิติภัสร์’อวยพรผู้สูงวัยยืนยันนโยบายรทสช.ดูแลได้-ไม่กระทบวินัยการคลัง

น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง เบอร์ 11 พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุแห่งชาติเพื่อรดน้ำขอพรผู้สูงอายุกับชมรมผู้สูงอายุเคหะคลองจั่น ณ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนคลองจั่น รวมทั้งแนะนำนโยบายพรรคที่จะใช้หาเสียงในครั้งนี้

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า ผู้สูงอายุคือผู้มีประสบการณ์ วันนี้ผู้สูงอายุหลายคนยังแข็งแรง ความคิดอ่านทันสมัย พร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศได้อีกหลายปี ผู้สูงอายุคือเสาหลักหนึ่งในครอบครัวที่ช่วยดูแลลูกหลาน รวมทั้งครอบครัวและชุมชนให้เกิดความสุข วันนี้ตนจึงมารดน้ำอวยพรให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข   
 

ขณะเดียวกันตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบแล้ว เพราะข้อมูลของส่วนราชการยืนยันว่าตั้งแต่ปี . 2564 สัดส่วนของจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นไปถึงร้อยละ 20-30 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าประชากร ทุกๆ 100 คน จะพบจำนวนผู้สูงอายุ 30 คน ซึ่งน่าจะตามมาด้วยปัญหาสุขภาพและโรคเรื้อรังต่างๆด้วย และเมื่อปี2565พบว่า“ผู้สูงอายุวัยต้น” ช่วงอายุ 60-69 ปี มีจำนวนกว่า 6.8ล้านคน “ผู้สูงอายุวัยกลาง” ช่วงอายุ 70-79 ปี จำนวน 3.5ล้านคนเศษ “ผู้สูงอายุวัยปลาย” อายุ 80 ปีขึ้นไป จำนวน 1.75ล้านคน คน ตรงนี้สังคมต้องช่วยกันดูแลผู้สูงวัยกันต่อไป
 

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุในช่วง 4 ปีข้างหน้าคือ การเพิ่มสิทธิ “บัตรสวัสดิการพลัส” เป็น 1,000 บาทต่อเดือน โดยผู้ถือบัตรยังมีสิทธิกู้ฉุกเฉินในวงเงิน 10,000 บาทต่อคน เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน เพราะจะช่วยเหลือผู้สูงอายุในประเทศเพื่อเป็นหลักประกันหนึ่งด้านรายได้ที่มั่นคงให้เสาหลักของครอบครัวและช่วยลดรายจ่ายของประชาชนในการดูแลผู้สูงอายุได้ระดับหนึ่ง

“แนวทางที่พรรคและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองพรรครวมไทยสร้างชาติ วางไว้ใน 4 ปีข้างหน้านี้ จะตอบโจทย์สังคมสูงวัยของเมืองไทยได้โดยไม่มีผลกระทบทางวินัยการเงินการคลังของประเทศในอนาคตแน่นอน มั่นใจว่าสังคมจะยอมรับกับสิ่งดีๆที่พรรคจะมอบให้ประชาชน วันที่14พ.ค.พี่น้องเขตบางกะปิและวังทองหลาง วางใจให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 22 และมอบให้ตนเบอร์ 11 ได้ทำหน้าที่ส.ส. รวมทั้งสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าว

น.ส.ฐิติภัสร์  กล่าวว่า หากประชาชนให้โอกาสตนอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนจะผลักดัน “บัตรสวัสดิการพลัส” เป็น 1,000 บาทต่อเดือน และเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งจะผลักดันพัฒนาพื้นที่สันทนาการและพื้นที่ออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุและประชาชนทุกช่วงวัย และจะเสนอนโยบายจ้างงานผู้สูงอายุที่มีความพร้อมมาทำงานในศูนย์สันทนาการ ลานกิจกรรม และลานกีฬาต่างๆ ให้ผู้สูงอายุมีรายได้และสนับสนุนสังคมแบบให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมช่วยเหลือดูแลกัน