“รังสิมันต์” หวั่น เลื่อนสั่งคดีอุปกิต ซ้ำรอย บอส อยู่วิทยา ส่อ มวยล้มหรือไม่
“ก้าวไกล” โว กระแสพรรคในโลกออนไลน์ สูงสุด นำทุกพรรค มั่นใจ ชัยชนะท่วมท้นทุกภาค ท้าชิง กทม. ทั้ง 33 เขต ดักคอ รัฐบาลไทย อย่าให้ใครแทรกแซงคดี ตุน มิน ลัต ชี้ อสส. เลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีอุปกิต สังคมจะตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ไม่อยากให้ซ้ำรอยคดีบอส อยู่วิทยา
ที่พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงกระแสความนิยมของพรรคที่เพิ่มขึ้นว่า ในสื่อสังคมออนไลน์ ยอด engagement หรือ คนที่เข้ามามีส่วนร่วม และยอดการค้นหาก้าวไกล มีจำนวนสูงที่สุดนำทุกพรรค ส่วนกระแสผลโพลก็สอดคล้องกับกระแสออนไลน์คะแนนนิยมพรรคและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค เพิ่มขึ้นมาก เป็นการยืนยันว่า พรรคที่ตั้งใจทำการเมืองให้ดี ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง รณรงค์ด้วยนโยบาย จุดยืนชัดเจนไม่การไม่ร่วมมือพรรคทหาร เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในประเทศนี้ และวันที่ 22 เม.ย. ขอเชิญ ร่วมฟัง "ทัพใหญ่ก้าวไกลปราศรัยโค้งสุดท้าย" ที่ลานหน้าสามย่านมิตรทาวน์ 16.00-19.00 น. เป็นการปราศรัยใหญ่ในโค้งสุดท้าย มีแกนนำเข้าร่วมพร้อมหน้า ก่อนที่ทุกคนจะกระจายไปหาเสียงในทุกภาคและกลับมารวมกันอีกครั้ง 12 พ.ค. ทัพใหญ่ปราศรัยครั้งนี้ เพื่อส่งสัญญาณเป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนประเทศนี้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน จนได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในทุกภาคโดยเฉพาะใน กทม. ที่เป็นฐานเสียงเดิมของเราครั้งนี้ เราหวังท้าชิงทั้ง 33 เขต ไม่ตกหล่นเขตใดแน่นอน
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงกรณี ตามที่สำนักข่าว The Irrawaddy ของประเทศเมียนมา รายงานข่าวว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา พยายามติดต่อเจรจากับทางการไทยเพื่อให้ถอนชื่อบุตรสาวของตัวเองออกจากคดีของตุน มิน ลัต ผู้ถูกจับกุมในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และข้อหาฟอกเงิน หรือไม่ ว่า รัฐบาลไทยต้องสร้างความเป็นธรรม จะปล่อยให้รัฐบาลอื่นมาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ คดีของตุน มิน ลัต มีการตั้งข้อหาทั้งเรื่องยาเสพติด และการฟอกเงินไปแล้ว ทางการไทย ย่อมมีอำนาจในการยึด หรืออายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่า เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดได้ ไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำหน้าที่ของตัวเองหรือเปล่า หรือปล่อยให้คืนทรัพย์สินไปยัง พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ลาย เราจะถูกตั้งคำถามจากนานาชาติมากขึ้น ว่ารัฐบาลไทย มีส่วนได้เสีย กับขบวนการค้ายาเสพติดและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมาหรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนกรณีอัยการสูงสุด เปิดเผยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งทางคดีนายอุปกิตปาจรียางกูร ส.ว.ในความผิดฐาน สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เกี่ยวพันกับคดีนายตุน มิน ลัต หรือไม่ ออกไปก่อน ว่า เรื่องนี้เป็นตลกร้าย สิ่งที่ตนกังวลมาตลอดเกิดขึ้นจริงแล้ว ที่อัยการระบุว่าจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนายอุปกิตกว่า 80 แห่งนั้น ตนเห็นว่า 2 เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมัดรวมกัน หากจะมัดรวม ควรมัดรวมกับคดีตุน มิน ลัตซึ่งวันนี้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้ว ถ้าอัยการฯ ทำหน้าที่แบบนี้สังคมจะตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส อาจตราหน้าว่ากำลังช่วยเหลือคนที่เกี่ยวข้องคดีค้ายาหรือไม่ ตนไม่อยากให้เรื่องนี้ซ้ำรอยคดีบอส อยู่วิทยา จึงขอให้อัยการทบทวนให้ดี เพราะถึงที่สุดกังวลว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นำอาจไปสู่การล้มคดีหรือไม่