"เศรษฐา" ซัด เรื่องเลอะเทอะ ยัน "พท." ไม่ยกเลิก "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"
"เศรษฐา" สยบข่าวลือ พท. จ่อ ยกเลิก "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เรื่องเลอะเทอะ ไม่จริง ยัน ทีมเศรษฐกิจ-กฎหมาย ไม่แตกคอ ปม แจก 1หมื่น ชี้ จัดเก็บงบฯ เพียงพอ เผย โพลคะแนนพรรคลด อาจยังไม่ลงพื้นที่
ที่สาเกตฮอล์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายงานข่าวระบุพรรคเพื่อไทยในทีมเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายของพรรคยังเห็นต่างในการชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ตนก็นั่งประชุมอยู่ทั้งสองทีม ยืนยันว่าไม่มีความเห็นต่างและเห็นตรงกันเรียบร้อย
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าจะมีการยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายเศรษฐา ระบุว่า เป็นเรื่องเลอะเทอะ ไม่จริง ยืนยันอีกครั้งไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งคณะทำงานเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายไม่มีการแตกคอ ทุกอย่างเหมือนเดิม ส่วนการจัดเก็บงบประมาณยืนยันมีความเพียงพอ
เมื่อถามว่า กกต.ระบุ พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ส่งรายละเอียดการชี้แจงไป นายเศรษฐา เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งคำชี้แจงไปยัง กกต.วันเดียวกันนี้ (18 เม.ย.) ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีปัญหาพรรคจะชี้แจงทุกอย่างทุกขั้นตอนตามข้อสงสัยของ กกต.
เมื่อถามว่า มีผลโพลระบุว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะอยู่อันดับ 1 แต่คะแนนนิยมลดลง ส่วนพรรคก้าวไกลอันดับ 2 คะแนนนิยมกลับเพิ่มขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูตรงนี้ แต่ตนได้เอาทุกอย่างมาวิเคราะห์เขตไหนที่พรรคเพื่อไทยได้คะแนนลดลงไป อาจจะเป็นเพราะพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ลงพื้นที่ก็ได้ อย่างพรรคเพื่อไทยฐานเสียงใหญ่อยู่ที่ภาคอีสาน วันนี้วันแรกที่ตนมาภาคอีสาน ถ้าให้ตนลงพื้นที่เยอะขึ้นพร้อมพบปะพี่น้องประชาชนก็น่าจะเข้าใจนโยบายดีๆ ของพรรคเพื่อไทยได้ แต่การทำโพลแต่ที่ก็แตกต่างกัน แต่ฐานเสียงพรรคเพื่อไทยอาจอยู่ที่ออฟไลน์ก็ได้ ซึ่งตนรับฟังและจะเอาไปวิเคราะห์ให้ดี
เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยจะยืนหนึ่งในโพลได้หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า มั่นใจพรรคเพื่อไทยก็มีโพลสำรวจความเห็น เพราะเราต้องการทราบข้อมูลที่แท้จริง เพื่อทำให้เดินทางไปข้างหน้าแก้ไขปัญหาและวางยุทธศาสตร์โค้งสุดท้าย เป็นธรรมดาที่จะมีการปรับกลยุทธ์ตลอดอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ในช่วงเกือบ 30 วันที่เหลือจะมีนโยบายอะไรเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ต้องคอยดูกันต่อไป