"วราวุธ"ไม่ถอดใจ หลังโพลเลือกตั้งไร้กระแส จี้ ผู้สมัครฯเคาะทุกประตูบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค, นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรคค , นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่เขต1 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยผู้สมัคร คือ นายเฉลิง จูจำรัส ผู้สมัครส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต1 พรรคชาติไทยพัฒนา หาเสียงกับประชาชนในพื้นที่ ผ่านการตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณสามแยกบางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

 

ทั้งนี้ก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย นายวราวุธ  ให้สัมภาษ์ โดยมั่นใจว่าประชาชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เขต1  จะให้โอกาสเลือกนายเฉลิง เป็นส.ส.เข้าไปทำงานในสภาฯ แม้ว่าในพื้นที่เขต1 จะนักการเมืองเจ้าถิ่นที่มีความเข้มแข็งและมีฐานเสียงมากในพื้นที่ สำหรับการเลือกตั้งจากนี้ที่เหลือเวลากว่า 20 วัน ทุกพื้นที่ผู้สมัครของพรรค จะทำงานอย่างเข้มข้น และไม่ประมาท โดยกลยุทธ์ที่จะเรียกคะแนนให้กับพรรค คือ การเดินเคาะประตูบ้านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่เลือกตั้งให้ครบทุกบ้านและทุกตารางนิ้ว

เมื่อถามถึงผลการสำวจความคิดเห็นต่อคะแนนเลือกตั้งที่พรรคชาติไทยพัฒนายังไม่ติดอันดับTop5 นายวราวุธ กล่าวยอมรับว่าพรรคพร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะไม่ได้หวังแค่ผลเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่ต้องเตรียตัวในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย  ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นที่ออกมาเป็นสิ่งที่พรรคจะผลักดันผู้สมัครให้เดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่

 

“ผลโพลที่ออกมาไม่ได้ทำให้คนของพรรคถอดใจ หรือไม่สู้ เพราะทุกคนที่ลงเลือกตั้งแม้จะไม่ชนะเลือกตั้ง แต่จะไม่หยุดทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะปัญหาของประชาชนนั้นรอไม่ได้ ดังนั้น การลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครต้องละเอียดให้มากขึ้น และผลสำรวจการเลือกตั้งคือสิ่งกระตุ้นให้ผู้สมัครทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่ละสายตาจากพื้นที่ไปจนถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม แม้ผลโพลของพรรคจะไม่มีกระแส อย่างไรก็ดีพรรคได้ทำโพลเช่นกัน พบว่าบางพื้นที่เป็นไปตามคาด แต่บางพื้นที่ยังไม่เข้าเป้าดังนั้นต้องโทรศัพท์แจ้งผู้สมัคร และกระตุ้นผู้สมัครให้ทำงานเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน” นายวราวุธ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งให้พรรคการเมืองเพิ่มการทำป้ายเพื่อติดตั้งที่หน่วยเลือกตั้ง จะส่งผลใดต่อผู้สมัครและพรรคหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนมองว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณขยะหลังจากวันเลือกตั้ง และการติดตั้งป้ายหาเสียงปัจจุบันยอมรับว่าบดบังทัศนียภาพ ทั้งนี้ตนมองว่า สิ่งที่ กกต.ควรทำ คือการกำหนดพื้นที่ติดตั้งป้าย เหมือน ประเทศญี่ปุ่น ที่กำหนดให้ติดป้ายผู้สมัครขนาด เอ3 ที่หน่วยเลือกตั้ง  แน่นอนว่าทำแบบนั้นผลกระทบคือเศรษฐกิจของผู้รับผลิตป้าย แต่ผลดีคือ จะลดปริมาณขยะ

 

 

“ตอนนี้พบว่าพรรคแต่ละพรรคติดตั้งป้ายหาเสียงตามถนนหลายพรรค เมื่อถามประชาชนว่ามีพรรคใดบ้าง ประชาชนตอบได้หมด แต่จำเบอร์ไม่ได้ ดังนั้นควรตระหนักในเรื่องของปริมาณขยะด้วย ส่วนกรณีที่ป้ายหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาถูกทำลายนั้นผมขอความเห็นใจอย่าทำลายป้ายหาเสียงกันเลย” นายวราวุธ กล่าว.