"อรรถวิชช์" เผย "ชพก." กระแสดี-ทำโพลภาคใต้ มั่นใจปักธงได้3ส.ส.แน่นอน
"อรรถวิชช์" ควง "กรณ์" ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.ภาคใต้หาเสียง เผยโพลพรรค ชี้3เขตคะแนนนำ-ได้เป็นส.ส.แน่นอน ส่วนกทม. กระแสดีขึ้น เตรียมเปิดปราศรัยใหญ่12พ.ค.ที่สวนจตุจักร
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ให้สัมภาษณ์ว่า ตนพร้อมนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ลงพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งพรรคมั่นใจว่า เลือกตั้งปี2566 พรรคชาติพัฒนากล้าจะปักธงส.ส.ในพื้นที่ได้แน่นอน และจากการสำรวจความคิดเห็นของพรรคที่ทำแบบละเอียด พบว่า ใน 3 พื้นที่ คือ จ.ภูเก็ต เขต 2 พรรคส่งนายเทมส์ ไกรทัศน์, เขต3 น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ และ จ.สงขลา เขต2 พรรคส่ง นายจูรี นุ่มแก้ว มีกระแสตอบรับที่ดีและคาดว่าจะได้รับเลือกตั้ง นอกจากนั้นในพื้นที่ของ จ.พัทลุง เขต2 พรรคส่ง นายธนากร บุญสนิท จ.ชุมพร เขต2 พรรคส่ง นายลิขิต ศรีชาติ และ จ.สงขลา เขต9 พรรคส่งทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ผลโพลพบว่ามีลุ้น ดังนั้นคิดว่าพื้นที่ภาคใต้พรรคชาติพัฒนากล้า มี ส.ส.แน่นอน อย่างไรก็ดีในช่วงโค้งสุดท้ายต้องรอดูพรรคการเมืองคู่แข่งว่าจะออกอาวุธอย่างไร
นายอรรถวิชช์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่กทม. พรรคอยู่ระหว่างทำโพลในช่วงสัปดาห์นี้ แต่จากการประกาศนโยบายและการต่อสู้กับทุนผูกขาด ทั้งเรื่องพลังงาน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ประเด็นแบล็กลิสต์ ทำให้คะแนนของพรรคไต่ระดับขึ้นมาก และในวันที่ 12 พฤษภาคม พรรคเตรียมเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่กทม. ที่สวนจตุจักร
เมื่อถามถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของโพลสำนักต่างๆ ที่ผู้สมัครและพรรคชาติพัฒนากล้ายังไม่ติดอันดับ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า โพลที่มาจากการสุ่ม มักจะหักปากกาเซียนทุกครั้ง อีกทั้งการสำรวจหากเป็นโพลของฝ่ายความมั่นคงจะเป็นไปตามฐานกลุ่มเดิม ไม่เคยตรงกับผล ทั้งนี้ส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าทำคะแนนดีขึ้น เพราะพยายามสื่อสารให้ชัดที่สุดทั้งในประเด็นการต่อสู้กับกลุ่มทุน ธนาคารพาณิชย์ ส่วนการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน ส่วนกระแสโพลที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลมีกระแสและคะแนนนำ ตนมองว่ายังมีฝั่งที่ไม่ได้ตัดสินใจ และเฝ้าดูการเมือง ซึ่งการเมืองปัจจุบันเปลี่ยนเยอะ ขณะที่กระแสแลนด์สไลด์ตนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้
“ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียง พรรคชาติพัฒนากล้า จะสู้ตามแนวทางของเรา คือ สู้ทุนพลังงาน ราคาพลังงาน และสร้างโอกาส เราเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ออกนโยบายแจกเงิน ที่ผ่านมาการเมืองไทยตลอด20ปี แข่งกันเรื่องประชานิยม แต่เราจะสู้เรื่องของโอกาสนิยม เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆให้เกิดขึ้น และหากคิดถึงเรื่องเศรษฐกิจ ต้องเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า หากประชาชนต้องการแก้เรื่องเศรษฐกิจต้องคิดถึงเรา” นายอรรถวิชช์ กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่าโค้งสุดท้ายหาเสียง การชูประเด็นเรื่องขั้วการเมืองจะเป็นจุดชี้วัดผลเลือกตั้งหรือไม่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าการเลือกตั้งรอบนี้ประชาชนจะเลือกแบบแบ่งขั้วแบบเก่า ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้ามั่นใจในเรื่องของการสร้างโอกาสนิยมากกว่า
“ผมชัดเจนว่าการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคที่ได้เสียงข้างมากต้องจัดตั้งรัฐบาล และรวมเสียงได้เกิน 250 จากสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ โดยไม่นำจำนวนส.ว.เข้ามาคำนวณด้วย ในการแข่งขันเลือกตั้งทุกพรรคต้องชัดเจนเ และตั้งคำถามแทนการแบ่งซ้ายหรือขวา เหมือนอย่างเลือกตั้งปี62 ผมถึงท้าว่าจะสู้กับกลุ่มทุนพลังงานหรือไม่ แต่ไม่มีใครพูดว่าจะออกนโยบายเบียดการทำงานของกลุ่มทุนหรือไม่ แม้จะบอกว่าเมื่อเป็นรัฐบาล จะต้องเปลี่ยนการเจรจาสัญญาใหม่ หากทำแบบนั้นอาจเกิดกรณีเสียค่าโง่ได้” นายอรรถวิชช์ กล่าว