“พิธา” โชว์โรดแมป “รัฐบาลก้าวไกล” ร่าง รธน.ใหม่ ฟื้นคดีสลายชุมนุมปี 53
“พิธา” เสนอโรดแมปถ้า “ก้าวไกล” เป็นรัฐบาล นับหนึ่งร่าง รธน.ฉบับใหม่ เสนอทำประชามติทันที ให้ สสร.มาจากประชาชนทั้งหมด ฟื้นคดีสลายชุมนุมปี 53 เลิกเกณฑ์ทหาร เลือกตั้งผู้ว่าฯทุกจังหวัด เตรียมรื้องบ 2.5 แสนล้าน ทำสวัสดิการประชาชน เสนอกฎหมาย 45 ฉบับ
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2566 ที่สำนักงานใหญ่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนงานรัฐบาลก้าวไกลในการขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 300 นโยบายของพรรคก้าวไกล ตอนหนึ่งว่า พรรคก้าวไกลได้วางกรอบเวลาในการขับเคลื่อนนโยบายหลักที่สามารถผลักดันได้ใน 100 วันแรก 1 ปีแรก และสมัยแรก ภายใต้กรอบ ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ สำหรับแผนงาน 100 วันแรกในการสร้าง ‘การเมืองดี’ พรรคก้าวไกลสามารถใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ทันที ด้วยการเสนอทำประชามติภายใน 100 วันแรก ให้มี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหมด นอกจากนี้ พิธายังเตรียมเสนอให้ ครม. นำกฎหมายสมรสเท่าเทียมขึ้นมาพิจารณาต่อ ทบทวนการดำเนินคดีการเมืองและเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั้งหมดในฐานะกฎหมายของ ครม. รวมทั้งออกและยกเลิกกฎ ประกาศกระทรวงต่างๆ เพื่อปฏิวัติระบบราชการให้โปร่งใส และปลดล็อกกฎของมหาดไทยที่ฉุดรั้งความอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
"การทบทวนคดีและการนิรโทษกรรม ต้องย้อนหลังไปเมื่อการรัฐประหาร ปี 2549 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งในประเด็นนี้จะมีข้อยกเว้นในคดีการคอร์รัปชั่นและการประทุษร้ายร่างกายที่ตัดออก ส่วนที่เหลือจะมีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการนิรโทษกรรม ส่วนใครที่ไม่อยากเข้ากระบวนการ สามารถสละสิทธิไม่ขอนิรโทษกรรมและปฏิบัติตามกระบวนการเดิมได้เช่นเดียวกัน" นายพิธา กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ส่วน ‘ปากท้องดี’ ใน 100 วันแรก พรรคก้าวไกลจะกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องทันทีด้วยการทำนโยบายหวยใบเสร็จ เพิ่มกำลังซื้อครั้งใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อยให้คึกคักได้ตลอดปี นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลมีแผนจะดึงดูดการค้าและการลงทุนโดยการใช้กองทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness Fund) ซึ่งมีเหลืออยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สร้างเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เปลี่ยนสูตรการจัดสรรก๊าซธรรมชาติทันที เพื่อลดค่าไฟ 70 สตางค์ภายใน 1 ปี และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาท พร้อมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือ SME รัฐช่วย SME จ่ายประกันสังคม 6 เดือน ค่าแรงหักภาษีได้ 2 เท่า 2 ปี
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า อีกส่วนของนโยบายเศรษฐกิจที่ทำได้เลยใน 100 วันแรก คือการปลดล็อกกฎกระทรวงและนโยบายของรัฐบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทำ ‘สุราก้าวหน้า’ ด้วยการปลดล็อกกฎกระทรวงการคลัง ออกมติ ครม. ที่ปลดล็อกการออกโฉนดที่ดินให้นิคมสหกรณ์และนิคมสร้างตนเอง 6.5 ล้านไร่ ทันที และ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ (Net Metering) เพื่อให้ ‘หลังคาสร้างรายได้’ ให้คนไทยทั้งประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าได้เองบนหลังคาบ้าน
นายพิธา กล่าวว่า สุดท้าย ‘มีอนาคต’ สิ่งที่ทำได้ใน 100 วันแรก คือ ‘ปฏิวัติการศึกษา’ กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ครูละเมิดสิทธิพักใบประกอบทันที และเลิกให้ครูนอนเวร ‘คืนศักดิ์ศรีประเทศไทยในเวทีโลก’ ด้วยการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน และสร้างอำนาจต่อรองในการรักษาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับประเทศนอกกลุ่ม และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยทางการเมืองด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ‘คืนสุขภาพดี ทั้งกาย-ใจ’ เซ็นงบเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค (PP) ปลดล็อกงบประมาณในการป้องกันเชื้อ HIV ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขในรัฐบาลประยุทธ์ไม่ยอมเซ็น เพิ่มตรวจสุขภาพจิตในการตรวจสุขภาพประจำปีได้ เริ่มการบริจาคอวัยวะเชิงรุก และปราบฝุ่น PM2.5 กำหนดมาตรฐานห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผาทันที
นายพิธา กล่าวอีกว่า ส่วนแผนงาน 1 ปีแรก พรรคก้าวไกลเตรียมทำ 2 ส่วน คือการยื่นเสนอกฎหมายและรื้องบประมาณ 2567 พิธากล่าวว่าพรรคก้าวไกลมีกฎหมายอยู่ในมือแล้ว 45 ฉบับที่พร้อมเสนอทันทีที่สภาฯ เปิด เป็นกฎหมายการเมือง 11 ฉบับ สิทธิเสรีภาพประชาชน 8 ฉบับ ปฏิรูประบบราชการ 6 ฉบับ ปฏิรูปที่ดิน 8 ฉบับ บริการสาธารณะ 8 ฉบับ แรงงาน 2 ฉบับ เศรษฐกิจ 4 ฉบับ และสิ่งแวดล้อม 2 ฉบับ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า อีกส่วนคืองบประมาณ พรรคก้าวไกลเตรียมรื้องบประมาณ 2567 ใหม่ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในระบบราชการและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะทำให้ได้งบประมาณใหม่ 250,000 ล้านบาท งบประมาณส่วนนี้ พรรคก้าวไกลจะนำไปจัดสรรเป็นโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนพิสูจน์สิทธิ์และปลดหนี้เกษตรกร ทำ boxset ของขวัญแรกเกิดเด็กทุกคนทันที คนละ 3,000 บาท เงินเลี้ยงดูเด็กเล็ก 1,200 บาท/เดือน รวมทั้งเริ่มการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงวัยและคนพิการปีแรกขยับจาก 600 บาท เป็น 1,200 บาท และจะขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นขั้นบันไดให้ถึงคนละ 3,000 บาท/เดือน ภายในปีที่ 4 นอกจากนี้จะจัดสรรงบประมาณไปในอีกหลายภาคส่วนเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงขนส่งสาธารณะ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สนับสนุนค่าเดินทาง-ค่าตรวจในการตรวจสุขภาพประจำปี และเศรษฐกิจสร้างสรรค์
นอกจากการจัดสรรงบประมาณแล้ว พรรคก้าวไกลยังเตรียมทำ 3 บิ๊กแบงที่สร้างความหวังให้กับประเทศไทยได้ คือจัดให้มีประชามติเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ผ่านกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ และรื้อฟื้นคดีสลายการชุมนุมปี 2553
สุดท้าย นายพิธา กล่าวว่า ในสมัยแรก สิ่งที่ประชาชนจะได้คือ 300 นโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะเข้าไปเปลี่ยนประเทศ ไม่ว่าจะเป็นได้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จบการปฏิรูปที่ดินคืนที่ดินให้ประชาชน ตำรวจอยู่ข้างประชาชน รัฐโปร่งใสไร้กลโกง สวัสดิการลดเหลื่อมล้ำ ลดเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด ปฏิวัติการศึกษา ขึ้นค่าแรง เอาจริงกับโลกร้อน หวยใบเสร็จช่วย SME สุขภาพดีทั้งกาย-ใจ สร้างงานซ่อมประเทศ ลดค่าไฟทันที 70 สตางค์
“นี่คือความฝันของเรา แต่ถ้าเป็นความฝันแล้วไม่มีเป้าหมายและโรดแมป ความฝันก็จะเป็นได้แค่ความฝัน แต่พรรคก้าวไกลมีแผนงาน เป้าหมาย และการเตรียมร่างกฎหมายที่ชัดเจน เราเชื่อว่าทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ถ้านี่คือประเทศไทยที่ท่านอยากเห็น เหมือนกับประเทศไทยที่ผมอยากเห็น ถ้าความฝันของเราตรงกัน กาก้าวไกลทั้ง 2 ใบให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” นายพิธา กล่าว