“น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

ผลงาน "น้าชาติ"-"โคราชนิยม" คือสิ่งที่ "สุวัจน์" คิดไว้แล้วว่า จะปลุกกระแส ให้คนโคราช กลับมาเลือก "ชาติพัฒนากล้า" ในศึกเลือกตั้ง66

พรรคชาติพัฒนากล้า ในส่วนของ “โคราช” สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ประกาศบนเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ว่า “ขอทวงคืนนายกรัฐมนตรีของคนโคราช” เพื่อสร้างกระแสรักบ้านเกิดเมืองนอน และเลือกคนของ พรรคชาติพัฒนากล้า หรืออีกนัยหนึ่งคือ “พรรคชาติพัฒนากล้า”

 

พร้อมควบ มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ  Honda Rebel รุ่นแรก ป้ายทะเบียน 1 ผ-7777 ที่เคยเป็นของ “น้าชาติ-พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายกฯ คนที่ 17 ซึ่งถูก รสช. หรือคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ยึดไปพร้อมกับการยึดทรัพย์ แต่ถูกไถ่ออกมาจากเงินบริจาคของ “คนโคราช” 

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

สุวัจน์ ชูกำปั้นประกาศรักษาพรรคชาติพัฒนา พร้อม “ทวงคืน ส.ส.โคราช” ให้กับพรรค และย้ำถึงการได้นายกฯ ของคนโคราช ฟื้นยุคทองของโคราช เหมือนเช่นสมัย “น้าชาติ” ภายใต้นโยบายใหม่ ในการเลือกตั้งปี 2566 ว่า “โคราชนิยม”

 

ในการเลือกตั้งปี 2562 ด้วยอิทธิฤทธิ์ของกติกาเลือกตั้ง ด้วยบัตรใบเดียว  พรรคชาติพัฒนาที่มี “เทวัญ ลิปตพัลลภ” เป็นหัวหน้าพรรค สามารถคว้า ส.ส.เขต มาได้เพียงคนเดียว คือ “วัชรพล โตมรศักดิ์” จากจำนวนส.ส.ที่มี 15 คน  ที่กระจายไปยังพรรคอื่นๆ พรรคพลังประชารัฐ  6 คน พรรคเพื่อไทย 4 คน  และพรรคภูมิใจไทย 3 คน

 

ขณะที่ “เทวัญ” หัวหน้าพรรค ได้รับเลือกตั้งมาจากส่วน  “บัญชีรายชื่อ”

 

สำหรับการเลือกตั้งปี 2566 กติกาเลือกตั้งถูกปรับใหม่เป็น 2 ใบ และ “โคราช” ได้ ส.ส.เพิ่มอีก 1 เขต รวมเป็น 16 เขต และจากบทเรียนที่แสนเจ็บปวดในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา ทำให้พรรคชาติพัฒนาต้องปรับทัพ โดยส่งเลือดแท้ “เทวัญ” เป็นหัวหอก ชูธงนำทัพ ทวงคืนความยิ่งใหญ่ในโคราช ให้กับพรรคชาติพัฒนากล้าในวันนี้

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

 

แม้ผลโพลของสำนักต่างๆ  จะชี้ว่า “พรรคชาติพัฒนากล้า” ไร้กระแส และตัวผู้เล่นเป็นรอง ทั้ง “พรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกล”  ขณะที่ในพื้นที่เลือกตั้ง นครราชสีมาทั้ง 16 เขต ยังถูกหลายพรรค แก่งแย่งแบ่งเค้ก จาก 4 พรรคการเมืองใหญ่ 

 

 

ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง “สุวัจน์”  จึงพยายามอัดกระแส “โคราชนิยม” ขายฝันนโยบาย ฟื้นยุคทองของน้าชาติ เพื่อพลิกเศรษฐกิจของเมืองและพื้นที่โดยรอบ เพื่อหวังดึงกระแส “ชาตินิยมของคนโคราช”  ให้แปรเป็นคะแนนให้ ส.สเลือดแท้โคราช

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

โดยเขตที่ตั้งความหวัง ที่สะท้อนผลจากการทำโพล พบว่า 4 เขตที่มีโอกาสได้ ส.ส.เข้าสภาฯ คือ เขต 1 ของ “เทวัญ” เขต 2 ของ “วัชรพล” เขต 3 “สมศักดิ์ กาญจนวัฒนา” และ เขต 4 “สมบัติ กาญจนวัฒนา” แต่ยี่ห้อ “สุวัจน์” ไม่มองเฉพาะ “โอกาส” แต่ยังเจาะถึง “จุดอ่อน” เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพื่อนำมาปรับแก้เกม เข็น 4 ผู้สมัครเข้าสภาฯให้ได้ 100% 

 

อย่างเขต 1 พื้นที่เมืองโคราช (เฉพาะ ต.ในเมือง ต.หนองไผ่ล้อม ต.โพธิ์กลาง) ที่ส่ง “เทวัญ” ลงชิงตำแหน่งกับแชมป์เก่า อย่าง “เกษม ศุภรานนท์” แต่ผลสำรวจพบว่า “ก้าวไกล” คือ คู่แข่งที่น่ากลัว เพราะได้กระแสคนรุ่นใหม่  เนื่องจากเป็นพื้นที่สถานศึกษา- มีนิวโหวตเตอร์มากพอสมควร

 

ดังนั้นแม้พื้นที่เมืองจะมี “ประเสริฐ บุญชัยสุข” นายกเทศบาลเมืองนครราชสีมาเป็นแบ็คอัพ แต่ต้องมีมือดี อย่าง “เจมส์- กษม กาจนวัฒนา” ลูกชาย “สมบัติ กาญจนวัฒนา” พระเอกซีรีย์วาย  ช่วยเรียกเรตติ้งในโค้งสุดท้าย

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

ขณะที่ เขต 2 ของ “วัชรพล” ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะดีกรีแชมป์เก่า ขณะที่คู่แข่ง ประเมินแล้ว ยังไม่มีใครที่จะทำคะแนน แซงหน้า  

 

เขต3  และ เขต 4  ที่ส่งพี่น้องตระกูล “กาญจนวัฒนา” ลงสนามรอบนี้  “สุวัจน์” ประเมินว่า แม้คะแนนนำ แต่ยังต้องเร่งสร้างกระแสเก็บแต้มต่อเนื่อง สัปดาห์หน้าจึงเตรียมจัดเวทีปราศรัยขนาดคนฟังหลัก 5,000 - 10,000 คน ใน อำเภอโนนไทย ซึ่งคลุมพื้นที่เลือกตั้งทั้งเขต 3 จำนวน 3 ตำบล และ เขต 4  จำนวน 7 ตำบล เพื่อขยายกระแส “โคราชนิยม” 

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดเวทีปราศรัยในทุกตำบลของ 4 เขต ที่มีหวังได้ส.ส.เข้าสภาฯ ซึ่งกลยุทธ์นี้สุวัจน์เรียกว่า “วิธีของสไนเปอร์ ที่เล็งผลแล้วต้องทำให้ได้” 

 

ส่วนพื้นที่อื่นๆ นั้น พยายามต่อยอดปลุกกระแส “โคราชนิยม” เพิ่มป้ายหาเสียง-รถแห่ กระจายให้เต็มทุกพื้นที่ ไปจนถึงวันเลือกตั้ง

 

อย่างไรก็ดี ในนครราชสีมา ที่หลายพรรคหมายปองและคิดว่าตัวเองจะกำชัยชนะ จากการประเมินของบ้านใหญ่โคราช “ตระกูลลิปตพัลล” มองว่า เพื่อไทย มาเป็นเบอร์ 1 และอาจได้ ส.ส.สูงที่สุด รองลงมาคือพรรคพลังประชารัฐ ส่วนเบอร์ 3 คือ พรรคชาติพัฒนากล้า 

 

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 
ขณะที่ “ภูมิใจไทย” หลังถูก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” จองเวร พบว่าผู้สมัครของพรรคกลายเป็น “คนไร้กระแส” ไปทันที

 

ทั้งนี้ เพื่อการตอกย้ำและปลุกกระแส “โคราชนิยม”  ของชาติพัฒนากล้าผ่านนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจยุคทอง สุวัจน์พร้อมทีมงาน เตรียมเปิดนโยบาย “เส้นทางท่องเที่ยวสายมรดกโลก” ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 3 พฤษภาคม นี้ เพื่อเตรียมรับการขึ้นทะเบียนจาก “ยูเนสโก้” แห่งที่ 3 ให้เป็น “อุทยานธรณีโลก”  หรือ โคราชจีโอพาร์ค ซึ่งก่อนหน้านี้ จ.นครราชสีมา ได้รับการขึ้นทะเบียนมาแล้ว 2 แห่ง คือ “มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่” และ “พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช อ.วังน้ำเขียว

 “น้าชาติ” และ “โคราชนิยม”  ยกสุดท้าย “ชาติพัฒนากล้า” 

การผลักดันจนยูเนสโก้เตรียมพิจารณาให้ “โคราชจีโอพาร์ค”ขึ้นทะเบียนจะทำให้ “โคราช”  เป็น “The UNESCO Triple Crown” ลำดับที่ 3 ของโลก รองจากเกาหลี และอิตาลี ทำให้ “สุวัจน์” มั่นใจว่านโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว จะเป็นตัวปลุก “โคราชนิยม” ให้ถึงขีดสุด

 

และชาติพัฒนากล้าจะคัมแบ็กอย่างยิ่งใหญ่ หลังการเลือกตั้ง 66 ได้อีกครั้ง.