‘ประเสริฐ’ป้อง‘เศรษฐา’สวนกลับ‘อนุทิน’ให้ข้อมูลปมกัญชาคลาดเคลื่อน

‘ประเสริฐ’ป้อง‘เศรษฐา’สวนกลับ‘อนุทิน’ให้ข้อมูลปมกัญชาคลาดเคลื่อน

‘ประเสริฐ’ป้อง‘เศรษฐา’สวนกลับ‘อนุทิน’ให้ข้อมูลปมกัญชาคลาดเคลื่อน ย้ำเพื่อไทยไม่ได้ลงมติถอดกัญชาจากยาเสพติด โยน เป็นอำนาจรมว.สาธาณสุข ชิงปลดล็อกก่อนมีกฎหมายควบคุม หวั่นทำให้เกิดกัญชาเสรี ย้ำจุดยืนนับสนุนกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น

ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความพาดพิงนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปมลงมติถอดกัญชาออกจากประมวลกฎหมายยาเสพติด และลงมติรับหลักการร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ว่า เป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเนื่องจากในข้อเท็จจริง การปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดเป็นอำนาจโดยตรงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

โดยนายอนุทิน  ได้ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด  ประเภทที่ 5 และออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่  8 กุมภาพันธ์ 2565 กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แล้วจึงค่อยนำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ เข้าสภาในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ซึ่งในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - ธันวาคม ระยะเวลาห่างกันถึง 10 เดือน ที่เกิดสุญญากาศ  ซึ่งขัดต่อมติของพรรคเพื่อไทย ต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาก่อน ค่อยปลดล็อค  และต้องใช้เพื่อการแพทย์เท่านั้น 
 

ประเด็นต่อมาแม้จะนำเอาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 ได้  แต่เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯฉบับนี้มี 45 มาตรา และ กมธ.แก้ไข จนมี 95 มาตรา  ซึ่ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยมีข้อห่วงใยในการใช้กัญชาเป็นอย่างมาก ต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น  การพิจารณาลงมติในวาระที่ 2 ทั้ง 95 มาตราทำได้เพียง 18 มาตรา  ก็หมดวาระของสภาผู้แทนราษฎรไปเสียก่อน 
 

“กล่าวโดยสรุปคือ ที่นายอนุทินกล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยรับหลักการนั้น ถือว่าคลาดเคลื่อน เพราะมีสมาชิกบางคนเห็นด้วยในการแก้ไขบางมาตรา  และเป็นการเห็นด้วยในวาระที่ 2 เท่านั้น” 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเป็นการเปิดศึกกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายประเสริฐย้ำว่าไม่ใช่ เป็นการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจระเบียบกฎหมายและขั้นตอนการพิจารณาเท่านั้น อยากยืนยันกับประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เห็นด้วยในการปลดล็อก แต่เป็นเหตุผลในทางการพิจารณากฎหมายดังที่กล่าวไป