เสียวสันหลังวูบ! ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย "วิษณุ" ย้ำ หลักการเสียงข้างมาก
"วิษณุ" ยัน ไม่เคยเชียร์ให้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ย้ำ ยึดหลักการต้องเสียงข้างมาก จะได้ไม่อยู่แบบเสียวสันหลังวูบ
6 พ.ค.2566 ที่สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา เขตบางพลัด กรุงเทพฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสวิจารณ์ความเห็นของตนเองเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อย อาจไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ ว่า ไม่ใช่จู่ๆตนมาออกความคิดเห็น แต่สื่อมาถามตนว่าเป็นไปได้หรือไม่ ตนจึงได้แสดงความคิดเห็นไปว่าถ้าตั้งเสียอย่างทำไมจะตั้งไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือตั้งไม่ได้
และยังบอกด้วยว่าทุกพรรคการเมืองพูดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ดังนั้นโดยหลักก็ต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่ถ้าหากถึงเวลาแล้วมันตันขึ้นมาไม่สามารถจะตั้งเสียงข้างมากได้ก็ต้องตั้งข้างน้อย แต่ปัญหาคือการผ่านด่านให้มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซึ่งนั่นหมายถึงเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่จะต้องมีเสียงมากที่สุดในสภาไม่เช่นนั้นจะเป็นรัฐบาลไม่ได้
"ผมไม่ได้เชียร์ให้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่ได้หมายความว่าส่งสัญญาณว่าจะเป็นเสียงข้างน้อย แต่สื่อถามว่าแล้วถ้าตั้งจะตั้งได้หรือไม่ ผมก็บอกว่าก็ต้องหาแล้วหาอีกเพราะไม่ได้กำหนดเวลาหานายกฯว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหานายกฯให้ได้ ตามมาตรา 270 ระบุอยู่ว่าถ้าใช้วรรคหนึ่งไม่ได้ก็ให้ใช้วรรคสอง ช่องทางมีอยู่เท่านั้น แต่จริงๆแล้วควรเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากจะได้ไม่ยุ่งยากไม่เช่นนั้นอยู่แบบเสียวสันหลังวูบวาบอยู่ตลอดเวลา บริหารราชการไม่มีสมาธิ ผมไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรเลย พวกคุณถามผมว่าได้ไหม ผมจะตอบว่าไม่ได้ผมก็โกหก ผมก็บอกว่าได้ แต่โดยปกติมันไม่ควร หรือแม้ถ้าตั้งขึ้นมาได้ก็เป็นข้างน้อยอยู่ไม่กี่วันแล้วในที่สุดก็เป็นเสียงข้างมากไป" นายวิษณุกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีบางฝ่ายเข้าใจผิดกันไปมากว่าไม่เคารพเจตนารมณ์ นายวิษณุกล่าวว่า เวลาไปลงข่าวอาจจะเข้าใจผิดแต่เวลาตนพูดเพราะสื่อตั้งคำถามเช่นนั้น ตนไม่ได้อยู่ดีๆแล้วมาเปิดฉากว่าจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งตนเองก็ภาวนาให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมากจะได้มีความสงบราบรื่นเรียบร้อย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลหน้าจะได้เจอกับอาจารย์วิษณุอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่ตอบเรื่องนี้