“สกลธี” ขอคะแนน “นพวรรณ” ดีใจคนรุ่นใหม่สนใจการเมือง แนะเลือกที่นโยบาย
“สกลธี” ลงพื้นที่ช่วย “นพวรรณ” ดีใจคนรุ่นใหม่สนใจการเมือง แนะเลือกที่นโยบาย มากกว่าแฟชั่นหรือกระแส ย้ำก้าวใข้ามขัดแย้งเดินหน้าเศรษฐกิจ
ที่ตลาดออเงิน พรรคพลังประชารัฐ(พปชร) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค และในฐานะหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่วอนขอคะแนนเสียงให้ ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น เขต12 เบอร์12 ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ รวมถึงพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดออเงิน ที่ร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัคร ส.ส.คนนี้
หลังลงพื้นที่หาเสียง นายสกลธี ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อสักครู่ไปปราศรัยย่อยที่เคหะออเงิน มีประชาชนร่วมฟังปราศรัยประมาณ 300 คน และตามด้วยมาที่จุดนี้ ตลาดออเงิน แล้ววันนี้ก็พยายามเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คือการเอานโยบายไปขาย ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยสูงอายุ บัตรประชารัฐ 700 บาท หรือว่าเป็นการลดราคาน้ำมัน ลดราคาก๊าซหุงต้ม ลดราคาค่าไฟ และได้รับการตอบรับดีจากประชาชน
นายสกลธี กล่าวต่อว่า ณ วันนี้เรื่องของปากท้อง เศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งสังเกตได้ว่าพรรค พปชร.จะไม่ไปทะเลาะกับใคร เราพยายามขายในจุดนโยบายของเรา ที่คาดว่าตอบโจทย์ ปชช.
ส่วนกรณีที่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ พรรคจะได้คะแนนเสียงตอบรับมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้ ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ว่าดีใจที่เห็นประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ และสะท้อนให้เห็นว่า วันที่ 14 ใกล้จะถึงนี้ ต้องมีคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะแน่นอน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กกต. หรือสำนักงานเขต นำข้อบกพร่องของการเลือกตั้งล่วงหน้า"เมื่อวานนี้มาปรับ" เนื่องจากวันที่ 14 จะมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์มากกว่านี้หลายเท่า และอยากให้การเลือกตั้งไหลลื่นไม่มีจุดตำหนิ ซึ่งจะทำให้มีผลกับคะแนนที่ออกมา หากทำรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ส่วนตัวมองว่าทุกคนคงต้องยอมรับกับผลของการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามนายสกลธี ว่า มั่นใจ กกต.มากน้อยแค่ไหน นายสกลธี ตอบว่า มั่นใจแต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ เช่น โค้งสุดท้ายไม่ถึงอาทิตย์ก่อนวันเลือกตั้ง ประชาชนบางส่วนยังไม่ทราบว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้บัตร 2 ใบ ส่วนตัวมองว่า เราต้องเร่งประชาสัมพันธ์ เพราะว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต่างจากปี 62 ซึ่งใช้บัตร 2 ใบและ 2 สีด้วยกัน หากไม่เร่งประชาสัมพันธ์ อาจจะเป็นผู้สูงอายุ หรือคนที่เค้าไม่ได้ศึกษามาก่อน และเข้าไปกาผิด ไม่ต่างกับกาคะแนนทิ้งน้ำ และอาจจะนำไปสู่บัตรเสียด้วย ฉะนั้นจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ในโค้งสุดท้ายที่เหลือให้ได้มากที่สุด
“ดีใจที่เห็นคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองมากขึ้น แต่อยากให้มองลงไปให้ดีอย่าสนใจเฉพาะแค่เปลือก ไม่ใช่ไปเลือกเพราะการบอกต่อหรือเลือกเพราะแฟชั่น อยากให้มองถึงแก่นนโยบายของแต่ละพรรคที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น เพราะประเทศไม่ใช่ของเล่นที่จะให้ใครมาแค่ลองวัดกระแส”
นายสกลธี กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมั่นใจในตัวผู้สมัคร ภญ.นพวรรณ และตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทุกคน ทั้ง 33 เขต ที่ได้คัดกันมากับผู้บริหารพรรคกับมือ ทางพรรค พปชร.มั่นใจ เรื่องตัวบุคคลไม่เป็นห่วงเลย เพราะคาดว่าแต่ละคนที่คัดมา และแนวทางในการหาเสียงของทุกคน "เราเต็มที่" เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่ที่ว่ากระแสในภาพรวมของโค้งสุดท้ายนี้ และแรงเสียงของ ปชช.จะออกมาทางไหน ซึ่งส่วนที่พรรคนั้นทำได้ก็ได้ทำเต็มที่ไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ ภญ.นพวรรณ ฝากถึง ปชช.ที่อยู่เขต 12 ประกอบไปด้วย เขตบางเขน (แขวงท่าแร้ง)-เขตสายไหม (แขวงออเงิน)-เขตลาดพร้าว (แขวงจรเข้บัว) อยากให้ประชาชนพิจารณาคนทำงาน อย่างคนนี้ที่เป็นผู้สมัครเดิม แพ้เลือกตั้งในครั้งที่แล้ว ซึ่งรอบนี้มีความมั่นใจ เนื่องจากตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ลงพื้นที่ทุกวันไม่เคยหยุดพักแม้แต่วันเดียว ประชาชนบางคนอาจจะไม่รู้ว่าทำอย่างไร สามารถเข้าไปดูในเพจ facebook "นพวรรณ หัวใจมั่น" ได้ จะรู้ว่าคนที่ทำงานมาตลอด แก้ประสานงานทุกอย่าง อยากจะฝากให้ ปชช.พิจารณาคนที่ทำงาน คนที่ทำพื้นที่ เพราะว่าจะสามารถดูแลพื้นที่ต่อไปได้ รวมถึงประสานงานต่างๆ ไม่ใช่ว่าเลือก ส.ส.ไปออกกฎหมาย ในสภาอย่างเดียว พร้อมย้ำ อยากให้เลือกคนที่ทำงาน คอยประสานงาน ดูแลพื้นที่ พอโทรศัพท์มาปุ๊บ ก็ต้องมีการประสานงาน หรือส่งต่อปัญหาประชาชน ให้แก้ปัญหาต่างๆให้กับประชาชนได้ พร้อมฝากให้พิจารณา เขต 12 เบอร์ 12 ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น
อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรค พปชร.หากใครที่ต้องการเลือกความสงบ ถ้าเรามีความขัดแย้งอยู่ เศรษฐกิจในประเทศไม่สามารถเดินต่อได้ ไม่มีนักธุรกิจมาลงทุน หากต้องการให้ประเทศมีความสงบ เลือก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 สามารถก้าวข้ามความขัดแย้งได้อย่างแน่นอน