“สมศักดิ์” ติวเข้ม ผู้สมัคร ส.ส.พท. หวัง ล้มแชมป์กรุงเก่า เขต1 ให้ได้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสุธรรม แสงประทุม แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบปะกับ นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาเขต 1 เบอร์ 5 พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงทิศทางการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย

โดยนายสมศักดิ์ ได้แนะนำว่า การหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนต้องเร่งสื่อสารเรื่องแลนด์สไลด์ เพราะจะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า ทำไมต้องเลือกพรรคเพื่อไทย ให้เกิดแลนด์สไลด์ เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 กำหนดให้ 250 ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีกับ 500 ส.ส.ด้วย ทำให้จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 750 เสียงก็คือ 376 เสียง แต่พรรคที่แต่งตั้ง ส.ว.เข้ามานั้น ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะหาส.ส.เพิ่มเพียง 126 คน ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่พรรคเพื่อไทย ต้องหาส.ส.ถึง 376 คน ดังนั้น เราจึงต้องสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า ถ้าอยากได้นโยบายของพรรคเพื่อไทย ก็ต้องเลือกให้แลนด์สไลด์ เพื่อจะได้จัดตั้งรัฐบาลได้ รวมถึงในช่วงโค้งสุดท้าย ผู้สมัครก็ต้องเร่งลงพื้นที่ให้หนักเป็นสองเท่า เพื่อที่จะสามารถล้มแชมป์เก่าได้ เพราะขณะนี้ กระแสตอบรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาดีมากแล้ว ถ้าผู้สมัครลงพื้นที่ให้หนัก ก็จะยิ่งทำให้เขตนี้ชนะอย่างแน่นอน

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย นายอัณณพ ได้ลงพื้นที่เดินตลาดน้ำอโยธยา เพื่อพบปะกับพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน โดยนายสมศักดิ์ ได้นำเสนอนโยบายเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกำลังการซื้อจำนวนมาก จะทำให้พ่อค้าแม่ค้า กลับมาขายของกันได้แบบคึกคัก รวมถึงพรรคเพื่อไทย ยังได้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยตรงกับพื้นที่ตลาดน้ำอโยธยา ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่แล้วแต่พรรคเพื่อไทย ก็จะช่วยส่งเสริมให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศเรามีรายได้จากการท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละ 7 แสนล้านบาท แต่พรรคเพื่อไทย จะยกระดับทำให้ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวปีละ 3 ล้านล้านบาท 

“แต่ทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทย จะสามารถขับเคลื่อนได้ พี่น้องประชาชน ต้องช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ โดยเลือกทั้ง นายอัณณพ เบอร์ 5 และพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 เพราะถ้าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ ก็จะง่ายต่อการผลักดันนโยบาย รวมถึงผมอยากฝากพี่น้องประชาชนว่า การเลือกพรรคการเมือง ต้องดูให้รอบคอบว่าจะสามารถทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้หรือไม่ ซึ่งประชาธิปไตยต้องใช้สติ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ จนลืมดูบางสิ่งไป” นายสมศักดิ์กล่าว 

ขณะที่ นายอัณณพ กล่าวว่า ตนเข้าใจพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอย่างดี จึงมีความพร้อมที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางประสานกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ปัญหาต่างๆของพี่น้องประชาชน ได้รับการแก้ไข อย่าง ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลต่อการค้าขายลำบาก ตนก็ได้รับการสะท้อนปัญหานี้มาโดยตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทย เข้าใจเป็นอย่างดี จึงมีนโยบายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ด้วยการเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท โดยจะทำให้พี่น้องประชาชน กลับมาค้าขายอย่างคึกคักแน่นอน ซึ่งตนขออาสาเข้าไปช่วยขับเคลื่อนทุกนโยบาย รวมถึงเป็นปากเสียงให้กับพี่น้องชาวอยุธยา