ดีลลับ ดีลลวง แผนกลับไทย 17 ปี “ทักษิณ” ประกาศ 19 ครั้ง
นับรวม 19 ครั้งที่ในรอบกว่า 17 ปี ที่อดีตนายกฯ “ทักษิณ” ส่งสัญญาณ “กลับบ้าน” แม้จะยังไม่สมหวัง แต่เดิมพันครั้งใหญ่สุดอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ได้กลับเข้าสู่อำนาจรัฐบาลอีกครั้ง และทักษิณยอมลดเพดาน ยอมกลับมาติดคุก
“ผมจะกลับบ้าน” เป็นคำพูดที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากให้เกิดขึ้นจริงมากที่สุด เพราะกว่า 17 ปีที่ผ่านมา ต้องระหกระเหินอยู่ต่างประเทศ โดยปักหลักอยู่ “ดูไบ” ก่อนจะเทียวไปเทียวมาหลายประเทศ จนอายุล่วงเลยมาถึง 73 ปี
การเลือกตั้งครั้งนี้ “ทักษิณ” จึงหมายมั่นปั้นมือให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อใช้เป็นหลักประกันภัยให้ตัวเองได้กลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว “ชินวัตร” อย่างที่หวัง
ดังนั้นจึงต้องยอมทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ผลักดัน“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ลงสนามการเมืองเพื่อดึงแต้มการเมืองมาให้ได้มากที่สุด เพื่อนำพรรคเพื่อไทยกลับเข้าสู่อำนาจ
เช่นเดียวกับตัวของ “ทักษิณ” เอง เดิมเกมประกาศต่อสาธารณชน พร้อมกลับมาถูก “จำคุก” จากคดีความต่างๆ เพื่อปลุกกระแสแลนด์สไลด์ให้เกิดขึ้นจริง
“กรุงเทพธุรกิจ” รวบรวมคำพูดของ “ทักษิณ” ที่เคยลั่นวาจา จะกลับมายังประเทศไทยในต่างกรรมต่างวาระ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า เขาพยายามหาจังหวะช่องทางที่จะกลับ แต่ดีลลับ-ดีลลวง ต้องล่มลงเกือบทุกครั้ง
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2551 กลับประเทศไทยครั้งล่าสุด หลังรัฐประหาร 2549
ครั้งที่ 2 วันที่ 31 ก.ค. 2551 ขออนุญาตศาลเดินทางไปปฏิบัติภารกิจประเทศจีนและญี่ปุ่น โดยระบุวันเดินทางระหว่างวันที่ 31 ก.ค.- 10 ส.ค. พร้อมกับคุณหญิงพจมาน ที่ให้เหตุผลขอเดินทางไปร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ระหว่างในวันที่ 5-10 ส.ค. แจ้งว่าจะกลับไทย 11 ส.ค.2551 แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้กลับ
ครั้งที่ 3 วันที่ 30 มี.ค.2552 วีดิโอคอล เวทีการชุมนุม นชป. แดงทั้งแผ่นดิน บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล “ถ้าเมื่อไหร่ เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้อง เดินเข้ากรุงเทพฯ ทันที” โดยในช่วงนั้น “ทักษิณ” ออกมาประกาศว่าจะกลับบ้านอยู่เรื่อยๆ
ครั้งที่ 4 ช่วงปี 2555 โฟนอินงานนสังสรรค์ “คนเสื้อแดง” ภาคอีสาน ระบุว่า “ถ้าผมกลับมาบ้าน ต้องกลับมาอย่างเท่ๆ แล้วจะบอกว่า จะกลับมาแบบไหน ถึงจะเรียกว่าเท่”
ครั้งที่ 5 วันที่ 1 ม.ค.2564 วีดิโอคอลให้สัมภาษณ์สื่ออยากมาเลี้ยงหลาน ไม่เล่นการเมือง มีแต่ห่วงบ้านเมืองเท่านั้น พร้อมระบุว่า “จะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่นั้น มันไม่ใช่ผมเป็นคนกำหนด”
ครั้งที่ 6 วันที่ 29 มิ.ย.2564 กล่าวในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ระบุว่า “ผมกลับแน่ แต่เมื่อไหร่ค่อยบอก”
ครั้งที่ 7 วันที่ 13 ก.ค.2564 ยืนยันในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse อีกครั้งว่า “ผมกลับไทยแน่ แต่จะบอกเวลาอีกที ยังไง ไปสุวรรณภูมิ ออกประตูหน้า ไม่ใช่ประตูหลัง”
ครั้งที่ 8 วันที่ 6 ส.ค.2564 ประกาศผ่านรายการ CARE ClubHouse CARE TAIK x "อยากกลับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ขอดูเวลาให้เหมาะเจาะ จะกลับเมื่อไหร่จะบอก”
ครั้งที่ 9 วันที่ 4 ม.ค.2565 ในรายการ CARE Talk x CARE Club House อวยพรคนไทยให้ได้ตนเองกลับบ้านไปช่วยงาน พร้อม 4 เงื่อนไข 1. อยากเลี้ยงหลาน 2. ไม่สนว่าใครเป็นรัฐบาล หากให้ช่วยก็พร้อมเสมอ 3. รับจ้างบรรยาย ขอแค่โอเลี้ยง 1 แก้ว 4. ไปชวนบรรดาเศรษฐีเมืองไทยลงขันสตาร์ทอัพรุ่นใหม่
ครั้งที่ 10 วันที่ 2 มี.ค.2565 CARE Talk X CARE Club House “ยืนยัน กลับบ้าน พ.ศ.นี้แน่”
ครั้งที่ 11 วันที่ 19 ก.ค.2565 CARE Talk x CARE Club House “ผมกลับแน่” หลังถูกพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ครั้งที่ 12 วันที่ 23 ก.ค.2565 โฟนอินงานเลี้ยงกลุ่มเครือข่ายคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา ว่า "ปีนี้เป็นปีสุดท้ายนะ ปีหน้าเราเจอกันที่เมืองไทยก็แล้วกัน”
ครั้งที่ 13 วันที่ 26 ก.ค.2565 ปล่อยวิดีโอวันเกิด 73 ปี จากดูไบ “ให้อภัยศัตรู อยากกลับบ้าน เพราะสงสารคุณหญิงพจมาน”
ครั้งที่ 14 วันที่ 19 ก.ย.2565 กล่าวเนื่องในวันครบรอบ 16 ปี รัฐประหาร 19 กันยา 2549 ระบุว่า “ขอกลับบ้าน ไปเลี้ยงหลานพร้อมแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ให้สังคมไทย”
ครั้งที่ 15 วันที่ 25 ต.ค.2565 CARE Talk x CARE Club House ระบุว่า “อยากกลับไปเลี้ยงหลาน ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้ว ได้กลับแน่ แต่รออีกนิดนึง”
ครั้งที่ 16 วันที่ 24 ม.ค.2566 CARETalk X CareClubHouse ย้ำอีกครั้งว่า “ยืนยันกลับบ้าน ไม่ออกกฎหมาย ไม่มีเกี้ยะเซี๊ยะ อุ๊งอิ๊งจะเป็นคน ประกาศเองว่าผมกลับเมื่อไหร่”
ครั้งที่ 17 วันที่ 24 มี.ค.2566 ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อญี่ปุ่น Kyodo News โดยบอกว่า "กำลังรอคอยเวลาที่จะได้เดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นภายในปีนี้ และพร้อมที่จะรับโทษจำคุกแลกกับการได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะออกมาอย่างไรก็ตาม"
แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้ามามีอำนาจในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ตาม “ผมบอกลูกสาวว่า อย่าปล่อยให้พรรคผลักดันออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผม ผมไม่ต้องการสิ่งนั้น ...”
ครั้งที่ 18 วันที่ 1 พ.ค. ทักษิณ ได้ทวิตข้อความระบุว่า “เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆ นี้ ครับ ขออนุญาตนะครับ”
ล่าสุดครั้งที่ 19 วันที่ 9 พ.ค. ทักษิณ ทวิตข้อความอีกครั้งระบุว่า “ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”
ต่อมาเวลา 10.20 น. ทักษิณ ทวีตข้อความเพิ่มเติม โดยระบุว่า “ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักความผูกพันกับครอบครัว/แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”
นับรวม 19 ครั้งที่ในรอบกว่า 17 ปี ที่อดีตนายกฯ “ทักษิณ” ส่งสัญญาณ “กลับบ้าน” แม้จะยังไม่สมหวัง แต่เดิมพันครั้งใหญ่สุดอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ได้กลับเข้าสู่อำนาจรัฐบาลอีกครั้ง และทักษิณยอมลดเพดาน ยอมกลับมาติดคุก