"องอาจ" ลั่นปชป.เป็นรัฐบาล ดันทันที4ข้อ "แก้พลังงาน" หวังสกัดทุนผูกขาด
"องอาจ" ลั่นปชป.เป็นรัฐบาล ดันทันที4ข้อ "แก้พลังงาน" ปลุกประชาชน “เบื่อลุง กลัวหลาน” ให้กลับมาหา “ลูกประชาธิปัตย์ หมายเลข 26”
ลานคนเมืองกทม. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยโค้งสุดท้าย #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง” ถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องค่าไฟฟ้าแพงว่า ปัญหาดังกล่าวมีการทุจริตคอรัปชั่นซึ่งเกิดจากบริษัทกลุ่มทุนผูกขาดทางด้านพลังงานใช้วิธีการฉ้อฉล หาประโยชน์เพื่อตนเอง เพื่อให้ได้สัมปทาน ส่งผลให้กลุ่มบริษัทเหล่านี้จากบริษัทธรรมดากลายเป็นบริษัทใหญ่ ขณะที่พี่น้องประชาชนจนลงทุกวันจากปัญหาค่าไฟแพง
ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามขจัดนายทุนผูกขาดด้านพลังงานผ่านการทำงานในสภามาโดยตลอด โดยมีนายเกียรติ สิทธีอมร ได้พยายามนำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาเรื่องไฟฟ้าตลอดมา ทั้งในสภาผู้แทนและในคณะรัฐมนตรี แต่เนื่องจากเสียงของเรามีไม่มากพอ มีเพียง 52 เสียง เป็นพรรคอันดับ 3 ในรัฐบาล ดังนั้นหากพี่น้องประชาชนต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าไปต่อสู้เรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น ก็จำเป็นจะต้องช่วยกันเลือกให้เรามี ส.ส. ให้มากกว่าเดิม
นายองอาจ ยังกล่าวปราศรัยว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล เราจะประกาศทันที 4 ข้อ ทางด้านพลังงาน ประกอบด้วย
- 1. ยกเลิกค่า FT
- 2. ลดค่าไฟฟ้าทันที
- 3. ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน พวกนายทุนผูกขาดพลังงานเจอกับพรรคประชาธิปัตย์แน่ เราจะรื้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สัญญาที่ฉ้อฉลทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อจัดการให้ผลประโยชน์ตกเป็นของแผ่นดิน
- 4.ประชาธิปัตย์จะไม่ใช่แค่ทบทวนโครงสร้างพลังงาน แต่เราจะรื้อโครงสร้างพลังงานทั้งหมด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนทุกคน
ดังนั้นการ #saveประชาธิปไตยไม่โกง จำเป็นจะต้อง #saveประชาธิปัตย์ เพื่อให้เรามีเสียงในสภามากพอ และขอให้พี่น้องประชาชนช่วยให้ประชาธิปัตย์ได้ทำงานยืนยาวต่อไป เพื่อ save ประเทศไทย
นอกจากนี้จากการลงพื้นที่เพื่อหาเสียงกับพี่น้องประชาชน ก็พบว่า มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากบอกกับเราว่าเขาตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร บางคนบอกว่าตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกลุง ขณะที่ส่วนหนึ่งบอกว่าไม่เลือกลุงแต่จะเลือกหลานสาว บางคนบอกจะเลือกหลานชาย แต่มีคนจำนวนมากบอกว่าจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์
พร้อมกับได้ส่งสัญญาณถึงคนที่จะ “เลือกลุง” หรือ “เลือกหลาน” ก็ขอให้เลือกไป เพราะประชาธิปไตยเป็นสิทธิ แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีพี่น้องประชาชนจำนวนไม่น้อยบอกว่าอยากเลือกประชาธิปัตย์แต่อีกใจก็ “สงสารลุง”
จึงขอตั้งคำถามให้ช่วยกันคิดว่า 8 ปีที่ผ่านมา “ลุงจัดการกับระบอบทักษิณได้มั้ย จัดการอย่างไร วันนี้ระบอบทักษิณโตขึ้นกว่าเดิมอีก แล้วจะให้ลุงไปจัดการระบอบทักษิณต่อไปอีก 2 ปี จะจัดการได้เหรอ”
“สำหรับท่านที่จะเลือกลุงก็ขอให้เลือกไปตามปกติ แต่ท่านที่ยังลังเล ท่านที่ยังไม่ตัดสินใจไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี ขอเรียนกับท่านทั้งหลายว่าวันนี้ขอให้ตัดสินใจ ถ้าเบื่อลุง ถ้ากลัวหลาน ขอให้เลือกลูกชายคนนี้ที่ชื่อ ประชาธิปัตย์ ลูกที่ไม่เคยเนรคุณกับใคร ลูกที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ลูกที่ทำงานหนักเพื่อประชาชน เหลือเวลาเพียง 2 วัน ที่จะตัดสินใจกลับมาบ้านเรา กลับมาหาลูกคนนี้ที่ชื่อประชาธิปัตย์ แม้ว่า 4 ปีที่ผ่านมาอาจจะเคยไปเยี่ยมเยียนใคร ก็ไม่ว่ากัน และคงตัดสินใจได้ว่าจะกลับไปเยี่ยมเยียนเขาอีกหรือไม่ ในเมื่อลูกคนนี้ที่ชื่อ ประชาธิปัตย์ ยังยืนหยัดรอท่านกลับมาอยู่ทุกวันเวลา” นายองอาจ กล่าวทิ้งท้าย