“พิธา” หาเสียงคลองเตย-วัฒนา ลั่นบ้านหัวหน้าแพ้ไม่ได้ เมินโดนร้องหุ้นสื่อ

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 13 พ.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค นำนายภัณฑิล น่วมเจิม ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา หาเสียงวันสุดท้าย เริ่มต้นที่ หน้ามูลนิธิดวงประทีป และหาเสียงในชุมชน 70 ไร่ ล็อค 1-2-3 ก่อนจะไปขึ้นขบวนรถแห่หาเสียงรถไฟฟ้า BTS บริเวณ Jasmine City สุขุมวิท 23 ไปEmquartier และไปBTS ทองหล่อ โดยมีชาวบ้านมารอต้อนรับ พร้อมทั้งมอบดอกไม้ ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก

นายพิธา กล่าวว่า “เขตนี้เป็นเขตบ้านหัวหน้าพรรค จะแพ้ไม่ได้ ต้องสู้ให้เต็มที่หน่อย” และว่า การลงพื้นที่ในวันสุดท้าย มั่นใจมาก และยังมีเวลาถึง 18.00 น.จึงใช้ยุทธศาสตร์ เติมน้ำให้เต็ม ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตในพื้นที่เนื่องจากครั้งที่หลายพื้นที่ สมัยพรรคอนาคตใหม่คะแนนมาเป็นอันดับ 2 เพราะฉะนั้นครั้งนี้อะไรที่ยังชนะไม่ขาดหรือแพ้นิดเดียวจึงทำให้ช่วงโค้งสุดท้ายต้องแยกย้ายกันไปลงพื้นที่

นายพิธา กล่าวอีกว่า ช่วงเช้าก็ไปลงพื้นที้เพื่อขอคะแนนในการรักษาเขตเดิม ให้กับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางขุนเทียน-บางบอน ส่วนที่คลองเตย ก็เป็นพื้นที่บ้านของตนเอง เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ยังไม่เคยเข้าสภา ดังนั้นจึงเป็นวิธีการทำงานของพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย 
   
เมื่อถามว่า ให้คะแนนการปราศรัยใหญ่ของพรรคอย่างไรนั้น นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้หลงกลและไม่ได้ให้คะแนนตัวเอง แต่ก็เป็นความคาดหมาย เพราะเดิมกังวลว่าฝนจะตก และอยากไปใช้สถานที่ใหญ่กว่านี้แต่ความเป็นจริงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น และเมื่อวานนี้ ทุกคนก็ถ่ายรูปกันนาทีสุดท้าย 

นายพิธา กล่าวด้วยว่า ยังมีความกังวลในการเลือกตั้งแบบเดิม ที่ยังมีการส่งข้อมูลมาหลากหลายช่องทางเกี่ยวกับการร้องเรียนความผิดปกติในการเลือกตั้ง เช่น ไม่มีหมายเลขแนะนำพรรคก้าวไกลในเอกสารแนะนำ หรือการใส่ชื่อพรรคสลับเป็นพรรคอื่น จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ ดังนั้นสิ่งที่ต้องแก้ไขเพื่อให้ก้าวไกลเป็นคำตอบสุดท้าย คือ เรื่องเขตใหม่ความสับสนของหมายเลขผู้สมัคร ดังนั้นตนเองจึงขอเชิญขวนให้ประชาชนทุกคนไปเช็คตู้ไปรษณีย์ว่า กกต.ให้ไปเลือกตั้งที่ไหนแล้ววางแผนออกไปใช้สิทธิใช้เสียงกันให้เยอะๆ
    
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากฝากถึง กกต.หรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า อยากฝากว่าให้ทำให้ถูกต้อง ถูกครรลองครองธรรม และทำให้เต็มที่อย่างที่ประชาชนคาดหวัง ให้คุ้มกับภาษีกว่า 6 พันล้านบาทที่ กกต.ได้รับ

ส่วนกรณีถือหุ้นสื่อนั้น มีความหนักใจอะไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่หนักใจ และมองว่าเป็นวิธีการเดิม แต่ผลลัพธ์จะไม่เหมือนเดิมแน่นอน เนื่องจากสามารถอธิบายได้ 

“พาดหัวของสื่อมวลชนวันนี้คสรจะเป็นเรื่องคำตอบสุดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดิน เป็นเรื่องโค้งสุดท้ายของพรรคก้าวไกล คงไม่มีอยากให้พาดหัวในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่ก็เดี๋ยวหากมีหมายเรียกก็จะไปชี้แจงตามปกติ” นายพิธา กล่าว

ส่วนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมกรณีถือหุ้นสื่อ ขัดกับระเบียบของพรรคก้าวไกลด้วยนั้น นายพิธา กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เขาอนุมานว่าผิดตั้งแต่แรก ไปพูดถึงกระดุมเม็ดที่ 3 เม็ดที่ 4 ทั้งที่เม็ดที่ 1ยังไม่จบเลยจึงขอให้มั่นใจกาก้าวไกลให้ถล่มทลาย 

นายพิธา ประเมินเก้าอี้ ส.ส.ขณะนี้ด้วยว่า จะเป็นตัวเลขเกิน 3 หลัก ส่วนจะมากกว่า 160 เก้าอี้ ที่เคยตั้งเป้าไว้หรือไม่ เชื่อว่าตอนนี้ก็ 160 เก้าอี้ แต่ในใจตนเองคิดว่า บางเขตก็ชนะหลักร้อยหลักพัน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องใช้หัวคะแนนธรรมชาติ