"พิธา" ผนึก 6 พรรค "309 เสียง" ตั้งรัฐบาล พร้อมควบ รมว.กลาโหม ไม่กังวล ส.ว.
"พิธา" แถลงชัยชนะ ประกาศรวม 6 พรรค "309 เสียง" ตั้งรัฐบาล ปิดช่องอภินิหารรัฐบาลเสียงข้างน้อย ลั่นไม่กังวล ส.ว. ฝืนฉันทามติ ลั่นพร้อมควบกลาโหม
เมื่อเวลา 12.00 น.ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงประกาศชัยชนะพรรคก้าวไกลรวมถึงความพร้อมในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้เป็นที่ประจักษ์ พรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นอันดับ 1 พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล น้อมรับฉันทามติของประชาชนพลิกขั้วจากฝ่ายค้านมาจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน รับฟังความเห็นแตกต่าง คืนศรัทธาให้ระบบประชาธิปไตย และรัฐสภา สร้างความโปร่งใสให้การเมืองไทย
ได้โทรศัพท์ไปหาแกนนำ 5 พรรค ได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แสดงความยินดีที่มีความมุ่งมั่นหาเสียง พร้อมเชิญชวนร่วมตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล-พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ 5 พรรคที่พูดถึงมีพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย รวมกัน 308 เสียง และกำลังติดต่อไปยังพรรคเป็นธรรม ที่เราเห็นความตั้งใจทำงานเรื่องความสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมแล้วเป็น 309 เสียง เพียงพอตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
โดย 5 พรรคพร้อมพูดคุยในรายละเอียดทั้งเรื่องคน นโยบาย แผนการทำงาน และจำเป็นต้องทำเอ็มโอยูเหมือนกับสากล ให้ประชาชนเห็นได้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย 100 วัน และ 1 ปี จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
นายพิธา กล่าวว่า ระหว่างนี้จะจัดตั้งทีมงานเจรจาจัดตั้งรัฐบาล นำโรดแมปที่สัญญากับประชาชนมาปฏิบัติ ทำประชามติให้มีส.ส.ร.แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และเกิดการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และจะเดินสายพบประชาชน ข้าราชการ ภาคธุรกิจ จะดำเนินการหลังจากนี้ พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจกับคนที่เห็นต่างกับพรรคก้าวไกล จะตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ไม่ให้มีสุญญากาศการเมือง เศรษฐกิจ
ขอให้มั่นใจการทำงานพรรคก้าวไกล จะทำงานอย่างละเอียด รวดเร็ว ในส่วนการตั้งคณะทำงานจัดตั้งรัฐบาลได้คุยกับ น.ส.แพทองธาร แล้ว โดยน.ส.แพทองธาร ได้แสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล ประชาชน และฝ่ายประชาธิปไตย บอกว่าพร้อมทำงานร่วมกันในอนาคต ถือเป็นความโปร่งใสที่แจ้งให้สื่อทราบว่า คุยอะไรกันบ้าง
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลกังวลเสียงส.ว.จะไม่โหวตสนับสนุนให้ครบ 376 เสียงหรือไม่ นายพิธาว่า ไม่กังวลเสียงส.ว. เพราะเป็นฉันทามติประชาชน การฝืนประชามติประชาชนไม่มีประโยชน์กับฝ่ายใด รวมถึง ส.ว. ท่าที ส.ว.แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เมื่อฉันทามติประชาชนมาแล้ว ทุกฝ่ายต้องน้อมรับ การฝืนฉันทามติประชาชนไม่เป็นประโยชน์กับใคร
เมื่อถามว่าเหตุใดไม่นำพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อความเด็ดขาดในการปิดสวิตช์ ส.ว. นายพิธา กล่าวว่า ไม่จำเป็น การที่ขั้วฝ่ายค้านตั้งรัฐบาล 300 กว่าเสียงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีใครกล้าฝืนฉันทามติประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้โทรศัพท์มาหา
เมื่อถามว่า จำนวน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลใกล้เคียงกัน ตำแหน่ง รมว.กลาโหมจะเป็นของใคร นายพิธา กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ การปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่ได้อยู่ที่กระทรวง จะใช้เรื่องนี้เป็นตัวเจรจา ตนพร้อมนั่งเป็นนายกฯ หรือถ้ามีความจำเป็นนั่งควบในกระทรวงต่างๆ ก็พร้อมนั่งควบทุกตำแหน่ง แต่ถ้ามีคนเหมาะสม ตนก็ไม่มีปัญหา
นายพิธา กล่าวว่า ส่วนจุดยืนเรื่องการแก้ไข มาตรา112 นั้น ขณะนี้ทุกเรื่องยังไม่คุยในรายละเอียดกับแต่ละพรรค แต่เรื่องการแก้ไขมาตรา112 สามารถทำได้ในสภา ตอนนี้พรรคก้าวไกลมี 151 เสียง ถือว่าเกินที่สามารถเสนอได้ โดยใช้สภาเป็นตัวแก้ไข แต่ที่มากกว่าการแก้ไขคือ ทบทวนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีการเมืองทั้งหมด และโอกาส นิรโทษกรรม เพราะเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่กับสถาบัน ถ้าไม่รีบพูดคุย อาจเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ของการเมืองไทยที่ตนไม่อยากเห็น
ผู้สื่อข่าวว่า กังวลเรื่องคดีการถือหุ้นสื่อที่อยู่ใน กกต.หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า ไม่กังวล พร้อมชี้แจงต่อ กกต.ขอเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์