ฝุ่นตลบ “พปชร.-พท.” ควบรวม เซตเกมต่อรอง ขี่คอ “ก้าวไกล”

จึงไม่แปลกที่มีการโยนหินถามทาง ถึงแผนสำรองต่างๆ หากก้าวไกลก้าวไม่ถึงฝั่งฝัน ก็เป็นโอกาสของพรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทย จะมีสิทธิเดินเกมฟอร์มรัฐบาลเข้าสู่อำนาจ

บางฝ่ายจึงมองว่าหากถึงคิวเพื่อไทยเดินเกม การโดดเดี่ยวก้าวไกลก็มีความเป็นไปได้ แล้วไปรวบรวมเสียงจากบรรดาพรรคการเมืองที่เหลือ ไม่เว้นแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ ที่ผู้ใหญ่ตัวจริงของเพื่อไทยและพลังประชารัฐต่างมีไมตรีที่ดีต่อกัน ช่วยเหลือกล่องดวงใจในเรื่องเซนซิทีฟชนิดที่ใครก็ทำให้ไม่ได้ นอกจากบิ๊กคนสำคัญ

จุดเชื่อมโยงหลายอย่างระหว่างสองพรรคนี้ ก็ทำให้มีข้อสังเกตว่า มีโอกาสจับมือกัน ถึงขนาดพูดกันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดทางร่วมกับเพื่อไทยชิงตั้งรัฐบาล หรือถึงขนาดยุบพรรคไปรวมเป็นเนื้อเดียวกันเลยทีเดียว

ทำเอาแกนนำพลังประชารัฐพรรคหลายคนยืนยันว่า เฟกนิวส์ และลุงป้อมเองก็พูดชัดยังไม่คิดวางมือทางการเมือง ยังเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกับไล่ให้ไปถามคนวิเคราะห์ถึงสูตรควบรวมพรรค

นอกจากนั้น ในการประชุมกรรมการบริการพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร ก็พยายามพูดปลุกใจให้เกิดความเชื่อมั่น เดินหน้ากันต่อ ไม่ยุบรวมกับพรรคไหน เพื่อไม่ให้ลูกพรรคไขว้เขว 

ก่อนหน้านั้น ก็มีกระเส็นกระสายออกมาว่า ลุงป้อมพูดกับแกนนำในพรรคอย่างอารมณ์ดี ถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นทำนองว่าไม่จริง อุตส่าห์ลงทุนลงแรงทำพรรคมาขนาดนี้จะไปยกให้ใครได้อย่างไร

จะว่าไปแล้วคนที่ปูดเรื่องพลังประชารัฐจะรวมกับเพื่อไทย ไม่ว่ารูปแบบใด ย่อมเล็งเห็นผลว่าจะให้เกิดผลกระทบ โดยเฉพาะกับเพื่อไทยอย่างไร ใครจะได้ประโยชน์จากความคลุมเครือไม่ชัดเจนตรงนี้ หรือเป็นเกมที่คนไม่หวังดี ต้องการกวนน้ำให้ขุ่น เพื่อที่ก้าวไกลจะยิ่งหวาดระแวงว่าเพื่อไทยจะตลบหลังชิงตั้งรัฐบาลเอง แทนที่จะดันหลังก้าวไกลหรือไม่

หรือถ้ามองอีกมุม การปูดข่าวรวมร่าง 2 พรรค ก็อาจจะยิ่งสร้างอำนาจต่อรองให้เพื่อไทยมากกว่าก้าวไกลหรือไม่ ในกรณีพรรคส้มยืนกระต่ายขาเดียว ปฏิเสธข้อเรียกร้อง เช่น โควตารัฐมนตรีเกรดเอบางกระทรวง หรือเก้าอี้ประธานสภา เป็นต้น

ความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะพลิกเกมตั้งรัฐบาล นอกจากการนำของก้าวไกลก็คือเพื่อไทย ประตูนี้ยังไม่ปิดตาย หากเงื่อนไขติดล็อกมากเข้าๆ จนเดินต่อไม่ได้ ก็อาจจะเห็นอะไรที่แฟนด้อมส้มไม่อยากเห็นก็ได้

หากเกมชิงอำนาจจากก้าวไกล มาเป็นของเพื่อไทยเกิดขึ้นจริง ต้องนับว่าเดินเกมเสี่ยงอย่างขีดสุดในระยะยาว เลือกตั้งครั้งหน้าโหวตเตอร์ที่เคยเลือกเพื่อไทย อาจเทไปเลือกก้าวไกลแบบแลนด์สไลด์ ก็ไม่แน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอาพลังประชารัฐมารวมด้วยแล้ว ก็ยิ่งเร่งให้พรรคมุ่งสู่ขาลงเร็วขึ้นหรือไม่

ถ้าจำกันได้ ในช่วงที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า ถูกขับออกมาพลังประชารัฐ ก็มีกระแสข่าวว่าจะกลับเพื่อไทย ถึงแม้จะคนกันเองทั้งนั้น แต่ภายในพรรคเพื่อไทยก็มีแรงต้านออกมาค่อนข้างหนักด้วยภาพลักษณ์ติดตัว และอะไรหลายอย่างจะส่งผลกระทบกับพรรค

ดังนั้น การที่พลังประชารัฐ ซึ่งมีดีเอ็นเอของลุงๆ อยู่เต็มเปี่ยมนั้น ทางเพื่อไทยเองก็มองเกมออกถ้ารวมกันจริง ผลดีน่าจะน้อยกว่าผลเสียที่จะตามมา 

แต่ถ้าเรื่องนี้ปล่อยออกมาหวังผล ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม เพื่อสร้างแรงกระเพื่อม สร้างอำนาจต่อรอง ก็พอจะเข้าใจได้ ในช่วงฟอร์มรัฐบาล ที่แต่ละคนต่างก็มีธงเรียกร้องอะไรให้มากที่สุดไว้ก่อน