"ทวี" จี้ "นายกฯ-ครม." รับผิดชอบ เลื่อนใช้กฎหมายอุ้มหาย หลังพบ ปชช. มีผลกระทบ

"ทวี" จี้ "นายกฯ-ครม." รับผิดชอบ เลื่อนใช้กฎหมายอุ้มหาย หลังพบ ปชช. มีผลกระทบ

"ทวี" เผยช่วงใช้ พ.ร.ก.ชะลอใช้กฎหมายอุ้มหาย มีปชช. ได้รับผลกระทบ 37 คน จี้ "ประยุทธ์-ครม." รับผิดชอบ ส่อใช้อำนาจละเมิดกฎหมาย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ในช่วงวันที่   22 กุมภาพันธ์ - 18 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ออกพระราชกำหนดเลื่อนบังคับใช้ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย  มาตรา 22-25 พบว่า ทหารควบคุมตัวบุคคล  ประมาณ 30 ราย และตำรวจมีจำนวนผู้ต้องสงสัยประมาณ 7 ราย รวม 37 ราย ออกจากศูนย์ซักถาม ซึ่งจะสามารถการดำเนินการ 2 กรณี คือ

 

1.เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.แล้ว ปรากฎไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับตาม ป.วิอาญา พนักงานสอบสวนจะรับตัวแล้วปล่อยตัวไป

 

2.เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.แล้ว พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเพียงพอขอออกหมายจับ ป.วิอาญา ต่อศาลและศาลอนุญาต พนักงานสอบสวนจะรับตัวและแจ้งข้อกล่าวหา ควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องหาตาม ป.วิอาญา

 

“การใช้อำนาจออก พ.ร.ก.ขัดรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ถือว่ามีเจตนาไม่มุ่งคุ้มครองบุคคลจากการทรมานของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการใช้อำนาจไปตามอำเภอใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และทำลายระบบกฎหมาย ต้องขอบคุณศูนย์ข่าวภาคใต้ ที่เสนอข่าวนักวิชาการจี้ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องร่วมกันรับผิดชอบ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี  กล่าวด้วยว่า  การเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายส่อเจตนาเพื่อมุ่งที่จะไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย จึงมีมูลน่าเชื่อว่าเข้าข่าย ความผิดฐานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต  ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีรู้ดีว่า การอ้างเหตุความไม่พร้อมด้านงบประมาณและบุคลากร ไม่เข้าเงื่อนไขในการออก พ.ร.ก.ชะลอการบังคับใช้กฎหมายอุ้ยหมาย โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้ ที่มีกฏหมายพิเศษใช้ เมื่อมีการจับกุมคุมขังผู้ต้องสงสัยจะใช้ทั้ง กฏอัยการศึก ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้ 7 วัน ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมตัวได้อีก 30 วัน ที่ทหารจะนำไปควบคุมที่ศูนย์ซักถามในค่ายอิงคยุทธ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และตำรวจจะนำไปที่ศูนย์พิทักษ์สันติศูนย์ซักถามของตำรวจยะลา