"วิษณุ "บอก 8 พรรคร่วมคุย ข้าราชการประจำทำได้ ย้อนอดีตเคยโดนเหมือนกัน
"วิษณุ" บอก 8 พรรคร่วมคุย ข้าราชการประจำทำได้ แต่แนะทำให้เงียบๆ เนียนๆ อย่าอึกทึกครึกโครม หวั่น ลำบากใจ เหตุยังไม่มั่นใจใครจะเป็นรัฐบาล-ยังมี รัฐบาลรักษาการอยู่
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ 8 พรรคร่วมตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านขึ้นมาว่า ไม่มองอย่างไร ไม่ทราบ ได้อ่านจากข่าวเท่านั้น ถือเป็นเป็นการดี เป็นการเตรียมตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อแทรกแซงการทำงานบางส่วนของข้าราชการ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่ได้บอกว่าเขาจะตั้งขึ้นมาเพื่อการแทรกแซง แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำอะไรหลายอย่าง และการที่เขาจะขอความร่วมมือจากข้าราชการประจำ ไปชี้แจง หรืออะไร ถือเป็นการทำโดยสันถวไมตรีอันดีงามก็ทำได้ เพราะในอดีตมีการเคยทำ แต่ช่วยทำให้แนบเนียนหน่อย ไม่เช่นนั้นข้าราชการประจำเขาจะลำบากใจ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังทำงานอยู่กับรัฐบาลนี้
นายวิษณุ กล่าวว่า และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นข้าราชการเขายังไม่รู้ว่าใครจะเป็นรัฐบาล เหมือนในอดีตเมื่อมีวี่แววชัดๆ ว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาล เช่น สมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล 300 กว่าเสียง ก็มีความชัดเจนแล้ว ไม่มีจะกลับเป็นอย่างอื่นได้ ในตอนนั้นถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ตั้งนายกรัฐมนตรีก็มีการไปขอความร่วมมือจากข้าราชการประจำไปให้ข้อมูล ตัวเลขต่างๆ ก็เคยทำ ทำนิ่งๆ เนียนๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ข้าราชการที่ไปให้ข้อมูลถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ผิดหรอก แต่เขาอาจจะอึดอัดใจ ลำบากใจ และอยู่ที่ว่าขอข้อมูลอะไร
“ก็ไม่เป็นไร อย่าไปถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เขาเชื่อว่าเขาจะเข้ามาบริหาร เขาก็จำเป็นต้องมีข้อมูล ผมถึงได้บอกว่าทำได้ แต่เงียบๆ เนียนๆ ไม่ได้มีปัญหา เพราะบางครั้งเขาอาจต้องการข้อมูลที่เกี่ยวกับอัตรากำลังพล ซึ่งต้องเชิญ ก.พ.ไปถาม เรื่องเกี่ยวกับงบประมาณก็ถามสำนักงบประมาณ ถามเกี่ยวกับแผนพัฒนาก็ถามสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศเขาก็จำเป็นต้องมีข้อมูล ก็ทำแบบเงียบๆ เนียนๆ อย่าอึกทึกครึกโครม
“อย่าแสดงตนว่าผมเป็นรัฐบาลแล้วผมเรียกมา มันไม่ใช่ เพราะถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร ค่อยๆ ทำกันก็ทำได้ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไปทำอึกทึกครึกโครม หรือแสดงให้เห็นว่าฉันจะเป็นรัฐบาลแน่ๆ แล้วนะ อย่างนี้มันไม่ควร เพราะยังไม่ได้เป็น และอยู่ที่ฝ่ายข้าราชการประจำที่ไปให้ข้อมูลด้วย” นายวิษณุกล่าว
นายวิษณุกล่าวด้วยว่า อย่างในสมัยที่ผมเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก็เคยถูกว่าที่นายกฯเรียกไปถามว่ามีงานอะไรที่ค้างอยู่บ้างที่อยากให้สานต่อ ซึ่งไม่มีคนรู้ว่าตอนนั้นมีการไป ผมเพิ่งมาเปิดเผยวันนี้นี่แหละ ทั้งที่ผ่านมา 15 ปีแล้ว
รองนายกฯกล่าวว่า เราอยากเห็นคนเป็นรัฐบาลที่พร้อม เพราะฉะนั้นอะไรที่เอื้อเฟื้อกันได้ก็ทำไป แต่อย่าทำให้ฝ่ายข้าราชการประจำอึดอัด ลำบากใจ เพราะเขายังมีนายอยู่ ยังมีผู้บังคับบัญชาอยู่ในปัจจุบันที่มีอำนาจเต็มตามกฎหมาย เดี๋ยวเกิดเขม่นกันขึ้นมาจะลำบาก แต่ข้อมูลที่เป็นความลับทางราชการนั้นไม่ได้ ให้ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแม้แต่ให้กันเองในหมู่ราชการบางทีก็ให้ไม่ได้ ให้ได้แต่นายกฯเพียงคนเดียว เช่น เรื่องงบลับ
เมื่อถามว่า ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งได้เร็วขึ้น แล้วการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและโหวตนายกฯจะทำได้เร็วขึ้นหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เชื่อว่าเร็วอยู่แล้ว เลื่อนเร็วได้ แต่จะเร็วได้สักกี่วันตนไม่ทราบ เพราะไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ นั่นคือการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดประชุมสภา และตามมาด้วยการเลือกประธานสภา และการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานสภา ดังนั้น ที่เคยกำหนดไทม์ไลน์ไปนั้นไม่ได้กำหนดตายตัว เพราะหากตีความไม่ดีจะกลายเป็นว่าตนไปบังคับ กำหนด กะเกณฑ์