ปลัด สธ.เร่งแก้ปัญหาหมอลาออก เพิ่มสวัสดิการ รับภาระงานแพทย์พยาบาลเยอะจริง

ปลัด สธ.เร่งแก้ปัญหาหมอลาออก เพิ่มสวัสดิการ รับภาระงานแพทย์พยาบาลเยอะจริง

ปลัด สธ. รับภาระงานแพทย์พยาบาลเยอะจริง สอดคล้องความต้องการบริการของประชาชนโดยเฉพาะโควิด ขอบคุณ "นายกฯ" อนุมัติบรรจุบุคลากร 45,000 คน เร่งแก้ปัญหาหมอลาออกเพิ่มสวัสดิการ เกลี่ยงานในจังหวัดมากขึ้น

6 มิ.ย.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์   ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว กรณีที่มีแพทย์ลาออกจำนวนมากเพราะงานเยอะนั้น  เตรียมให้นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้แถลงอย่างเป็นทางการในรายละเอียด พร้อมปฏิเสธว่านโยบายที่ไม่รับหมอใหม่นั้นไม่เป็นความจริง มีแต่อยากรับเพิ่มเยอะๆแต่คนที่อนุมัติคือกพ.และรัฐบาลซึ่งกระทรวงได้รับตามจำนวน และความต้องการแพทย์ของประชาชนสูง โดยเฉพาะในช่วงที่โควิดระบาด

ทั้งนี้ต้องขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่อนุมัติเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ 45,000 คนในช่วงโควิดมีความคลายความกดดันเรื่องบุคลากรลดลงแต่ปัญหาก็ยังไม่หมด รวมถึงมีความจำกัดเรื่องงบประมาณจากสปสช. ที่เหมาจ่ายรายหัวจึงมีความต้องการที่จะมีงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะเพียงพอต่อความต้องการแพทย์ของประชาชน 

ทั้งนี้ทุกอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเราใช้ทรัพยากร ทั้งเรื่องเงินและคนที่มีอยู่อย่างจำกัดมาบริการให้ประชาชนเท่าที่ทำได้ซึ่งต้องขอขอบคุณหมอพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่เสียสละทุ่มเทเพื่อทำให้ประชาชนได้รับบริการอย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าการป้องกันการสมองไหลในทางการแพทย์ต้องใช้มาตรการหลายส่วนเพื่อจะให้บุคลากรจะอยู่ได้เช่นเรื่องค่าตอบแทน ซึ่งต้องเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนที่ถูกดึงดูดไป และในส่วนของสวัสดิการของค่าตอบแทนก็จะมีการเพิ่มค่าโอทีเข้าไปมีบ้านพักให้กับบุคลากรให้เพียงพอพร้อมกับดูเรื่องความก้าวหน้าในวิชาชีพซึ่งขณะนี้คุณหมอ พยาบาล ก็จะอยู่ที่ระดับซี8-9 กัน จะพยายามให้ได้ทุกคนส่วนภาระงานที่เป็นปัญหาแก้ยากที่สุดหากมีงบประมาณเข้ามาเพิ่มเติมก็จะสามารถบริหารจัดการปัญหาได้ดียิ่งขึ้นพร้อมย้ำว่าต้องขอขอบคุณคณะหมอพยาบาลที่เสียสละมาโดยตลอด

ได้มีการกำชับให้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องภาระงานให้ไม่มากเกินไปซึ่งขณะนี้ก็พบว่ามีปัญหาลดลงตัวเลขภาระงานดีขึ้นประกอบกับดูตัวเลขประชากรที่เข้ามาอาศัยในตัวเมืองเพิ่มมากขึ้นทำให้ภาระงานในโรงพยาบาลศูนย์กับโรงพยาบาลทั่วไปมีมากกว่าโรงพยาบาลอำเภอจึงต้องปรับเปลี่ยนให้เกิดความสมดุลโดยยึดถือนโยบายว่าจังหวัดเดียวกันให้เป็นเหมือนโรงพยาบาลเดียวกันมีการเคลื่อนย้ายบุคลากรไม่ให้เกิดภาระงานมากเกินไปกับบุคลากร

นายแพทย์โอภาส ระบุว่าในภาพรวมจำนวนบุคลากรที่รับมาแต่ละปีประมาณกว่า 2,000 คน ส่วนที่ลาออกนั้นส่วนหนึ่งเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะส่วนใหญ่จบมาแล้วมักจะไปเรียนต่อ ซึ่งก็เกิดขึ้นได้ เป็นปกติซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10% ส่วนคนที่กลับเข้ามาในระบบใหม่นั้นก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่บวกอยู่ซึ่งขณะนี้จุดที่เป็นปัญหาคือโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปซึ่งกำลังจะปรับเปลี่ยนระบบ ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์รับการบรรจุทั้งหมด ซึ่งภาพรวมยอมรับว่ามีภาระเยอะแต่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะดูแลและทำให้เต็มที่เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนและแก้ปัญหาเป็นจุดไป