ก.ค.โค้งอันตราย ชิง'ประธานสภาฯ'จับตาสมการเปลี่ยน-เกมพลิก
ก.ค.โค้งอันตราย หุ้นสื่อ-คุณสมบัติส.ส.-เก้าอี้ประธานสภาฯ ปมร้อน สั่นคลอน"พิธา-ก้าวไกล" จับตาสมการเปลี่ยน-เกมพลิก
สัญญาณการเมืองมีการจับตาไปไทม์ไลน์ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ต่อเนื่องไปในช่วงต้นเดือนก.ค.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดว่ากกต.จะมีการรับรองผลว่าที่ส.ส
สอดรับกับท่าที อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนหน้าออกมาประเมินไทม์ไลน์คร่าวๆที่คาดว่า จะสามารถประกาศรับรองผลส.ส.ได้ร้อยละ 95 หรือประมาณ 475 คน เพื่อที่จะสามารถเปิดประชุมสภาฯได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ความเห็นจาก ปริญญา เทววานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวผ่านรายการ "มอร์นิ่งเนชั่น" ออกอากาศทางเนชั่นทีวี22 ประเมินฉากทัศน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า กรณีการรับรองผลส.ส.ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า อาจมีส.ส.ที่ถูกแขวน20-30 คน โดยมีการจับตาไปที่ในส่วนของ8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น รัฐธรรมนูญของเราถือว่าแปลกตรงที่กกต.มีเวลารับรองผลถึง60วันยิ่งไปกว่านั้น การประกาศผลยังไม่จำเป็นต้องประกาศครบ แต่กฎหมายระบุให้ประเทศผลเพียง95% คือ475คนก็สามารถเปิดประชุมสภาได้
- จับตาสมการเปลี่ยน-เกมพลิก
ปัญหาคือในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาลหากกกต.ประกาศผลไม่ครบ ก็จะมีผลต่อการเป็นเป็นพรรคอันดับหนึ่ง อันดับสอง รวมถึง การโหวตจุดแรกคือ ประธานสภาฯ เมื่อถึงเวลานั้นหากกกต.ยังประกาศผลไม่ครบแน่นอนว่า ตัวเลขสามารถเปลี่ยนจากพรรคอันดับหนึ่งเป็นอันดับสองได้ทันที
สมมุติว่าประมาณ25คนที่เหลือเป็นในส่วนของก้าวไกลสัก10เสียง จำนวนส.ส.ก็จะมีอยู่แค่141เสียงเท่ากับพรรคอันดับสอง โอกาสพลิกก็จะเกิดขึ้นได้ทันที
- เตือนบทเรียน"ใบส้ม" เลือกตั้ง2562
ปริญญา ยังกล่าวว่า ซึ่งต้องดูการตกลงว่าระหว่างเพื่อไทยและก้าวไกล เชื่อว่าเขาต้องจับมือกันอยู่แล้วเพียงแต่ว่านายกฯจะเป็นพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ นายกฯของทางพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นแพทองธาร ชินวัตร หรือเศรษฐา ทวีสิน
มองว่าเวลานี้กกต.ไม่ควรแขวนส.ส.แต่ควรส่งให้ศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัย เราเคยมีกรณีของผู้สมัครเชียงใหม่เขต8คือ สุรพล เกียรติไชยากร ที่ต่อมาศาลฎีกาตัดสินว่ากกต.ตัดสินผิดและขอให้กกต.ชดใช้เงิน 70ล้านบาทซึ่งขณะนี้ยังสู้คดีกันอยู่
"รัฐธรรมนูญระบุให้กกต.ให้ใบแดงก่อนประกาศผลได้ แต่เมื่อประกาศผลเป็นอำนาจของศาลฎีกาดังนั้นกกต.จึงควรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันโดยประกาศรับรองผลทั้งหมดหากมีข้อสงสัยจึงส่งให้ศาลตีความ"
ปริญญา ยังกล่าวว่าโค้งต่อมา คือ ส.ว. ถ้าไม่มีส.ว.คือทั้งการโหวตนายกฯก็จบแล้ว แต่พอมีส.ว.การโหวตนายกฯก็ขาดอยู่อีก64เสียง
- "ประธานสภา" เดิมพันอนาคตก้าวไกล
ฉะนั้นหากก้าวไกลจะยกประธานสภาให้เพื่อไทยตามที่ขอ ก้าวไกลก็ลำบากใจในแง่ที่ว่าหากประธานสภา ซึ่งจะเป็นประธานรัฐสภา ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช้คนของตัวเองเกิดเพื่อไทยเกิดเปลี่ยนใจฉีกเอ็มโอยู ก้าวไกลแม่จะเป็นอันดับหนึ่งก็เสร็จเลย
จึงเป็นเหตุผลว่าให้ประธานรัฐสภาเป็นคนของก้าวไกล หากพรรคเพื่อไทยจะเอาตำแหน่งนี้เชื่อว่าเขาคงจะต้องคุยกันเพื่อจับมือกันให้แน่นเช่นนั้นก้าวไกลถึงจะยอม พรรคเพื่อไทยเองก็ถูกคาดหวังจากสังคมถ้าเขาทำการเมืองไม่ดีคราวหน้าเขาจะแพ้ก้าวไกลหนักกว่านี้
- "ประมุขนิติบัญญัติ" ผู้คุมเกม
ฉะนั้นบทบาทสำคัญของประธานสภาที่จะอยู่ที่การเปิดประชุมและการปิดประชุม เขาต้องมั่นใจว่าจะมีเสียงมาเติมให้ครบ376ได้ ถ้าเขาไม่มั่นใจแล้วเลือกที่จะไปเสี่ยงดวงดู ก็อาจจะต้องไปดูที่การรวบรวมเสียง ขอเสียงส.ว.หรือชักชวนพรรคที่ไม่ใช้8พรรคมาร่วมโหวต หรือ
หากเสียงสนับสนุนไม่ถึง376 มองว่าสถานการณ์อาจเกิดขึ้นได้2สถานการณ์
1.ฝั่ง ว่าที่ฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาลเดิม อาจเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯมาแข่งก็จะเป็นความชอบธรรมให้ส.ว.เลือกอีกฝั่ง
2.หากเสียงไม่ถึงพรรคก้าวไก ลอาจเสนอ พิธา อีกรอบหรือหากเห็นว่าเสนอพิธาแล้วไม่ผ่านก็อาจต้องให้สิทธิพรรคลับดับถัดไปคือพรรคเพื่อไทยซึ่งแนวโน้มจะเป็นอย่างหลังก็มาก
ซึ่งเงื่อนไขที่ส.ว.อาจไม่โหวตให้พิธา อาจอ้างเหตุผลในเรื่องคุณสมบัติในกรณีการถือครองหุ้นสื่อ ซึ่งศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยตรงนี้บทบาทประธานสภาจะมีส่วนสำคัญในการวินิจฉัยให้ยังไม่มีการนัดประชุม เพื่อรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน หรือแม้แต่ฝั่ง ก้าวไกลหากรู้ว่า เสียงจะไม่ถึงก็อาจเล่นเกมด้วยการเข้าชื่อ1ใน10หรือส.ส.ประมาณ50คนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ระหว่างนี้ก็จะไม่มีการเลือกนายกฯโดยปริยาย
ส่วนโค้งอันตรายของพิธาคือกรณีใคำตัดสินคดีถือหุ้นสื่อ มองว่าไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นหลังโหวตนายกฯ แต่อาจเกิดก่อนก็ได้ ซึ่งถ้าตัดสินก่อน โค้งใกล้สุดคือ โค้งก่อนประธานสภา หรือในช่วงที่กกต.ยังไม่รับรองผล หากศาลวินิจฉัยว่าผิดตรงนี้จะอันตรายที่สุดคือส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ
หรืออีกทางหนึ่งคือตามที่ วิษณุ เครืองาม เปิดทางคือเลือกตั้งซ่อมทั่วประเทศ ขณะที่หัวหน้าพรรคซึ่งขาดคุณสมบัติแล้วมาเซ็นรับรอบรองสมาชิกทั้ง151คนก็จะเป็นโมฆะไปด้วยหากเป็นไปในแนวทางนี้ก็จะร้ายแรงที่สุดแต่ยังเชื่อว่ากกต.จะไม่เล่นในแนวทางนี้
ปริญญา ยังทิ้งท้ายถึงโฉมหน้ารัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งแต่เดิมคาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือน โดยเขาคาดว่า ทำไมต้องลากยาวอย่างลืมว่าส.ค.เป็นช่วงจัดทำบัญชีโยกย้าย ทหาร ตำรวจ ผบ.ตร.ก็จะมีคนใหม่
ฉะนั้นรัฐบาลรักษาการถ้าจะลากยาวไปถึงส.ค.แปลว่า รายชื่อบัญชีโยกย้ายก็จะเป็นคนของรัฐบาลรักษาการ ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาลและเข้ามาทำผบ.ตร.หรือข้าราชการตำแหน่งอื่นๆก็อาจเปลี่ยนเป็นอีกคน ขอให้สื่อไปถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีว่าบัญชีแต่งตั้งจะทำเองหรือให้รัฐบาลใหม่เข้ามาทำ ฉะนั้นที่ช้าก็อาจมาจากเหตุผลนี้ด้วย