มนต์ขลัง “รอยัล ปริ๊นเซส” “ดีลลับการเมือง” เกิดที่นี่
ปัจจุบันแม้นักการเมืองจะเปลี่ยนจากเจเนอเรชั่นหนึ่ง ไปสู่อีกเจเนอเรชั่นหนึ่ง แต่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส ยังเป็นแหล่งพบปะ พูดคุยเรื่องการเมือง ล่าสุด ครอบครัวชินวัตร นัดคุยเป็นการภายใน กรณี เก้าอี้นายกฯ ของ "อุ๊งอิ๊ง" และการกลับบ้านของ "ทักษิณ" เมื่อ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
“รอยัล ปริ๊นเซส” ย่านหลานหลวง ไม่ได้เป็นเพียงโรงแรมเก่าแก่ที่อยู่คู่กรุงเทพฯ มาช้านาน แต่ยังเป็นสถานที่พบปะของคนในแวดวงการเมืองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา พรรคการเมือง อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัว เข้า-ออกได้ 2 ทาง และยังมีเมนูอาหารจีน-อาหารญี่ปุ่นอันเลิศรส
ในอดีตนักข่าว จะมาปักหลักหน้าโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส ไม่ต่างจากทำเนียบรัฐบาล เพราะสถานที่แห่งนี้ มักจะมีนักการเมืองนัดหารือข้อราชการ ปัญหาบ้านเมือง จับขั้วรัฐบาลกันเป็นประจำ ตั้งแต่ยุค “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี กร ทัพพะรังสี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จากพรรคชาติไทยพัฒนา เวลานั้น
หรือแม้แต่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ก็มักจะเดินทางมารับประทานอาหารร่วมทหารใกล้ชิด หรือ อดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพ เช่น พล.ร.อ.ประเจตน์ ศิริเดช อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.นพ พิณสายแก้ว นพ.ประสพ รัตนากร
อีกทั้งโรงแรมแห่งนี้ เมื่อปี 2553 ถูกใช้เป็นสถานที่พบปะแกนนำพรรคเพื่อไทย หารือวางแผนช่วย “ทักษิณ ชินวัตร” กลับประเทศ หลังถูกรัฐประหารปี 2549 นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยในขณะนั้น
พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคน เช่น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี แกนนำกลุ่ม ตท.10 พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พล.อ.จงศักดิ์ พาณิชกุล อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม สุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
ฟากพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยใช้เป็นสถานที่นัดหารือแกนนำ และ ส.ส.ที่สอบได้และสอบตก เพื่อถอดบทเรียนหลังแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แบบราบคาบ รวมทั้งการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้การนำ ถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา ประชาธิปัตย์ในขณะนั้น
ปัจจุบันแม้นักการเมืองจะเปลี่ยนจากเจเนอเรชั่นหนึ่งไปสู่อีกเจเนอเรชั่นหนึ่ง แต่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง ก็ยังเป็นแหล่งพบปะรับประทานทานอาหาร หารือ พูดคุยเรื่องการเมืองไม่ขาดสาย
โดยล่าสุด “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ดามาพงศ์ นัดรับประทานมื้อเที่ยงกับครอบครัว โดยเฉพาะลูกๆ ทั้ง เอม พิณทองทา คุณากรวงศ์ และสามี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย
หนึ่งในหัวข้อพูดคุยของคนในครอบครัว คือการแสดงความห่วงใยที่คุณหญิงพจมาน มีต่อลูกสาวคนเล็ก “อุ๊งอิ๊ง” หลังก้าวสู่สนามการเมืองเต็มตัว แม้จะมีเสียงตอบรับจากแฟนคลับคนเสื้อแดง ทั้งรุ่นพ่อรุ่นใหม่ท่วมท้น ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 มาเป็นพรรคอันดับสอง และอยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ“ก้าวไกล”พรรคอันดับหนึ่ง
กับสถานการณ์ทางการเมือง ที่ไม่มีอะไรแน่นอน และคุณหญิงพจมาน ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว เผชิญวิกฤติการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย จนบ้านแตกสาแหรกขาด ส่งผลต่อคนในตระกูลชินวัตร คนแล้ว คนเล่า ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถูกรัฐประหาร ตลอดจนถึง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ และเขยตระกูล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ
สถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ โดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็น นายกฯ อาจไปไม่ถึงฝั่งฝัน สุดท้ายก็มีสองทางเลือก เปิดทางให้พรรคอันดับสองเพื่อไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลเสียเอง หรือก้าวไกลอาจตัดสินใจถอยออกไปเป็นฝ่ายค้าน
เมื่อถึงเวลานั้น “เพื่อไทย” จะกลายเป็นพรรคที่ต้องรับแรงกดดันในทุกด้าน ทั้งการจัดตั้งรัฐบาล ที่ต้องดึงพรรคการเมืองที่เป็นขั้วรัฐบาลเดิมของ พล.อ.ประยุทธ์ มาร่วมงาน และอาจต้องเผชิญมวลชน “ด้อมส้ม” ที่มีจำนวนไม่น้อย ที่พร้อมจะแสดงพลังหันมาทิ่มแทงพรรคเพื่อไทยเสียเอง
ดังนั้น หาก“อุ๊งอิ๊ง” ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แทน “พิธา” ย่อมเสี่ยงตกเป็นเป้าการเมืองจากทุกทิศทุกทางอย่างเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่คุณหญิงพจมาน หวั่นเกรง กับสถานการณ์ที่อาจคาดไม่ถึง ในขณะที่ “ทักษิณ”เองก็ดึงดันจะกลับประเทศในเวลานี้ และคนในครอบครัวพยายามทัดทาน
สตรีหลังม่านการเมืองอย่างคุณหญิงพจมาน จึงเลือกความปลอดภัยให้ลูกสาวคนเล็ก ขอเวลาอีกสัก 5 ปี ให้“อุ๊งอิ๊ง”สั่งสมประสบการณ์ ฝึกเพดานบินให้พร้อม รอให้บ้านเมืองเปลี่ยนผ่าน สถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ เก้าอี้นายกฯ รอบนี้ ครอบครัวชินวัตรจึงเห็นพ้อง ขอยกให้คนอื่นที่พร้อมก่อนจะดีกว่า