'เสรีพิศุทธ์' ไม่มีความเห็น กกต.ลุยคดีหุ้น 'พิธา' ไม่กระทบ 8 พรรคตั้งรัฐบาล
'เสรีพิศุทธ์' ไม่มีความเห็น กกต.รับเรื่องหุ้นสื่อ 'พิธา' ไว้พิจารณาตาม ม.151 บอกไม่กระทบ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ชี้ ส.ว.จะใช้เรื่องนี้ไม่โหวตนายกไม่ได้ เชื่อ ปชช.เคารพกฎหมายแม้ผลออกมาในทางลบ
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2566 ที่พรรคเสรีรวมไทย พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติรับเรื่องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลไว้พิจารณาตามมาตรา 151 ว่าตนไม่ทราบ ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รู้เรื่องหุ้นจากสื่อ ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะช่วงนี้นายพิธากำลังตั้งรัฐบาลไม่อยากให้เป็นปัญหาหรืออุปสรรค ซึ่งเรื่องนี้นานพิธาเคยเล่าให้ฟังที่ประชุม 8 พรรคว่าเรื่องหุ้นไม่มีอะไร ยืนยันว่าถือหุ้นถูกต้องในฐานะผู้จัดการมรดก
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลเนื่องจากไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพรรคเสรีรวมไทยรวมถึงการนับคะแนนใหม่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะหากนับใหม่พรรคเสรีรวมไทยมีแต่จะมีคะแนนเพิ่มขึ้น
ส่วนเรื่องนี้จะทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองจนมีการชุมนุมเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลและขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย พร้อมยกตัวอย่างว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่เลวร้าย(พูดว่าเฮงซวย)ที่สุดเลย คนเขียนรัฐธรรมนูญ(พูดว่าเฒ่าเจ้าเล่ห์-เฒ่าสารพัดพิษ) มีความรู้ความชำนาญ แทนที่จะทำเขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นผลดีต่อชาติ บ้านเมือง กลับไปรับใช้เผด็จการ ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่การรับใช้ฟรีๆ และเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน มีด้วยหรือที่ส.ว.250 คนต้องมาเลือกนายก มีแต่ประชาชนเลือกมา ซึ่งเลือกมาแล้วต้องมาให้คน 250 คนตัดสินใจ ต้องยอมรับเพราะเป็นกฎหมายแม้จะไม่เห็นด้วย รวมถึงคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังดำรงตำแหน่งนายกไม่ครบ 8 ปี ซึ่งตนอ่านอย่างไรก็ครบ 8 ปี แม้จะไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยก็ไม่มีใครไปเผาศาล เชื่อคนส่วนใหญ่เคารพกฎหมายแค่คนที่รักษากฎหมาย
ส่วนเรื่องนี้จะเป็นข้ออ้างให้ส.ว. ไม่โหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และจะกระทบกับการตั้งรัฐบาลหรือไม่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าตนไม่แน่ใจว่ายื่นศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลอาญา แต่หากเป็นศาลอาญาจะใช้เวลานาน แต่จะใช้เป็นข้ออ้างในการโหวตไม่ได้ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด