‘ชัยธวัช ก้าวไกล’ รู้ตัวการใหญ่เบื้องหลังปลุกผี ITV จี้อินทัชฯเปิดคลิปเต็ม
‘ชัยธวัช ก้าวไกล’ รับรู้แล้วตัวการใหญ่ ขบวนการปลุกผีทำ ITV ให้เป็นสื่อ จี้ ‘อินทัชฯ’ เปิดคลิปประชุมผู้ถือหุ้น 66 ฉบับเต็ม ซัดมีเบื้องหลังขวางตั้งรัฐบาล เล็งรวบรวมข้อมูลเอาคืนทั้งแก๊ง เย้ยโจทก์อาจกลายเป็นผู้ต้องหาได้
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ชัยธวัช ก้าวไกล) ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงกรณีแถลงข่าวถึงกรณี หุ้น ITV ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในประเด็นว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่พรรคก้าวไกลไม่เคยมีมาก่อนและจะนำข้อมูลยื่นต่อ กกต.เพิ่มเติมหรือไม่ ว่า เนื่องจากเรายังไม่ได้รับหนังสือจาก กกต.จึงยังตอบไม่ได้ ส่วนเอกสารหลักฐานต่างๆ ก็ต้องตอบว่าเราได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงมีความมั่นใจมาโดยตลอดว่าไม่มีปัญหาเรื่องคดีหุ้นไอทีวีแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าหลักฐานนี้จะสามารถไปหักล้างกรณีที่นายพิธาถือหุ้นไอทีวีได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่ามีส่วนสำคัญ และทำให้สังคมได้เห็นว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่การพยายามที่จะปกป้องเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ต้องการให้นักการเมืองไปมีส่วนในการครอบงำสื่อมวลชนเพื่อผลประโยชน์ในทางการเมือง แต่เป็นขบวนการที่พยายามหาเงื่อนไขมาขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลตามฉันทานุมัติของประชาชน นี่คือนัยสำคัญ
เมื่อถามว่าเบื้องต้นในเรื่องการถือหุ้นกับหลักฐานตัวนี้มันอาจจะไม่ได้หักล้างได้โดยตรง เพราะมีการถือหุ้นอยู่จริง การออกเอกสารมาภายหลังนี้จะสามารถไปแย้งอย่างไรได้บ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าฟังดีๆจะมีเนื้อหาบางส่วนที่มีนัยสำคัญมากในการพิสูจน์วินิจฉัยว่าตกลง ITV ยังคงดำเนินธุรกิจสื่อมวลอยู่หรือไม่ และอาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกับขบวนการปลุกผีไอทีวีโดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายราย เมื่อถามว่าพรรคจะมีการดำเนินคดีเรื่องการทำเอกสารเท็จหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่
เมื่อถามว่าคลิปนี้พรรคไม่เคยมีมาก่อนใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ได้เห็นพร้อมกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศพร้อมกัน ต่อข้อถามว่าข้อมูลที่พรรคก้าวไกลรวบรวมไว้ตอนนี้พอจะทราบว่าใครอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าเวลานี้ยังเร็วไปที่จะไปกล่าวหาใครคนใดคนหนึ่ง แต่คิดว่าพี่น้องประชาชนสามารถที่จะคาดการณ์ได้จากพฤติการณ์ต่างๆว่ามีใครบ้างเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า “ก็เห็นครับ”
เมื่อถามว่าจากความพยายามสอบถามเรื่องความเป็นสื่อของไอทีวีในที่ประชุมเป็นความพยายามในเรื่องการสร้างหลักฐานเท็จหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างที่แถลงไปว่าพฤติการณ์ต่างๆ มันทำให้เกิดข้อสงสัยได้ว่ามีความตั้งใจหรือวางแผนไว้แต่ต้นหรือไม่ที่จะมีการชงคำถามเพื่อให้มีคำตอบในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ว่าไอทีวียังดำเนินธุรกิจสื่อมวลชนอยู่ แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับคำตอบที่อยากได้ รายงานการประชุมจึงถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าความพยายามนี้มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเมื่อไรนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องรอข้อกฎหมายและความชัดเจนของพยานหลักฐานอีกครั้ง เรื่องมันอาจจะยังไม่จบแค่นี้ ใจเย็นๆ เมื่อถามว่าจะดำเนินคดีคนที่ไปร้องต่อองค์กรต่างๆ หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตาม พ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. มีฐานความผิดอยู่ ถ้าใครมีเจตนากระทำการที่จะกลั่นแกล้งให้ผู้ที่ลงสมัคร ส.ส. คนใดคนหนึ่งมีคุณสมบัติขัดต่อกฎหมาย อันนี้ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส.อยู่แล้ว ถ้ามีความชัดเจนพรรคจะดำเนินการแน่นอน
เมื่อถามว่ามีความพยายามที่จะยื่นไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่จะมีการโหวตนายกฯ ทางพรรคเตรียมการไว้อย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้ามีการดำเนินการอย่างนั้นจริง เช่น ถ้าทางกกต.มีการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อที่จะเตรียมส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เราก็คงจะต่อสู้อย่างเต็มที่ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพื่อไม่ให้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อมั่นว่าตอนนี้คงไม่มีใครกล้ารวบรัดกระบวนการสอบสวนและพร้อมฟ้องเรื่องนี้โดยรวบรัดได้อีก จะเห็นว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น มันมีความสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าคลิปอาจมีการกระตุก และนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย ระบุว่าเนื้อหาในคลิปเป็นคนละเรื่องและคนละช่วงกัน นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้ น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้มีการตอบคำถามไปแล้ว ว่าคลิปนี้ไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด แต่ให้ดีที่สุดบริษัทไอทีวีซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด ควรจะรีบเปิดคลิปเต็มของการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้สังคมหายสงสัยโดยเร็วที่สุด ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะชะลอการเปิดคลิปอันนี้ออกมาแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อถามว่าที่บอกว่ารู้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังแล้วมีประมาณกี่กลุ่ม นายชัยธวัช กล่าวว่า อันนี้เป็นข้อสงสัย ยังไม่มีข้อสรุป
ส่วนเป็นอดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่านั่นตัวเล็กไป
เมื่อถามว่ามีใหญ่กว่านั้นอีกหรือ นายชัยธวัช พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ครับ”
เมื่อถามว่าล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าคลิปดังกล่าวไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงว่าไอทีวีเป็นกิจการสื่อ นายชัยธวัช กล่าวว่า ใช่ เพราะมันเกี่ยวข้องกับเอกสารอีกหลายชิ้นที่ตนพูดถึง ซึ่งมีข้อสงสัยว่ามีการสร้างเอกสารเท็จย้อนหลังหรือไม่ด้วย คราวนี้โจทย์ก็อาจกลายเป็นผู้ต้องหา ๆ ก็อาจจะกลายเป็นโจทย์ก็ได้
เมื่อถามว่าที่ระบุว่า คำว่าตัวเล็กในที่นี้ หมายถึงขบวนการนี้เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ฝั่งประชาธิปไตยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งรีบสรุปตนคิดว่าเดี๋ยวเรารอดูการสรุปข้อเท็จจริง ซึ่งหลังจากนี้อาจจะมีข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้อเท็จจริงที่มาจากฝั่งบริษัทไอทีวีเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ถ้าเรื่องนี้ตรงไปตรงมาจริงๆ ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะชะลอการชี้แจงและเปิดเผยเอกสารหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งคลิปฉบับเต็มออกมาจากไอทีวี
เมื่อถามว่ามองว่าเรื่องนี้จะมีผลต่อการตัดสินใจโหวตเลือกนายกฯ ของส.ว.หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้กระจ่าง ก็จะไม่มีข้ออ้างเรื่องนี้ในการใช้ประกอบการตัดสินใจโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่
เมื่อถามว่าพรรคมีเอกสารอื่นที่จะแสดงความบริสุทธิ์ของนายพิธาในเรื่องหุ้นสื่ออีกหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า มี แต่รอรายละเอียดอื่นๆ ก่อน ตอนนี้เรื่องรายละเอียดการต่อสู้ทางกฎหมายต้องรอว่าทาง กกต.จะมีการส่งเรื่องมาทางพรรคอย่างไรหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีที่ทางบมจ.อินทัชฯ ตั้งกรรมการตรวจสอบ โดยคนตรวจสอบคือนายนายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. อินทัชฯ ซึ่งเป็นเป็นประธานบอร์ดทั้งของอินทัชฯ และไอทีวีด้วย จะสร้างความโปร่งใสเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดในเรื่องนี้ จึงขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตามคิดว่าตอนนี้สังคมกำลังรอคำตอบจากไอทีวี รวมถึงผู้บริหารสายงานกฎหมายของอินทัชที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบรายงานการประชุมไอทีวี และอีกหลายๆ คนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเอกสารงบการเงินของบริษัทไอทีวีด้วย หวังว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่ความกระจ่างว่ามีขบวนการการทางการเมืองที่หวังผลใช้ไอทีวีเป็นเงื่อนไขเพื่อลบล้างเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งหรือไม่