‘ยิ่งลักษณ์’ บอก “อยากกลับบ้าน - คิดถึงบ้าน” แต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตา

‘ยิ่งลักษณ์’บอก“อยากกลับบ้าน-คิดถึงบ้าน”แต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตา

‘ยิ่งลักษณ์’ บอก “อยากกลับบ้าน - คิดถึงบ้าน” แต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ตัดพ้อต้องปล่อยวาง รอจังหวะเวลาในอนาคต ปัดดีลลับการเมือง บอกไม่เคยเจอ “ประยุทธ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ “คุยแหลกแดกดึก” ดำเนินรายการโดย นายคชาภา ตันเจริญ หรือ"มดดำ" สัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยตอนหนึ่งได้ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าอยากกลับบ้านหรือยัง ทำให้เจ้าตัวตอบกลับว่า “อยากกลับบ้าน” พร้อมเล่าถึงชีวิตในต่างประเทศว่า ทุกวันนี้พยายามไม่ยึดติดแม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องใช้ชีวิตที่ห่างจากลูกชายน้องไปป์ (ศุภเสกข์ อมรฉัตร) 

เมื่อถามว่า หากยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่คิดว่าโครงการไหนจะดำเนินการให้สำเร็จ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คิดว่าคงเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อดึงศักยภาพ และจุดเด่นของแต่ละจังหวัดมานำเสนอ และตอบโจทย์ในระดับประเทศ รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง และนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ พร้อมหวังว่ารัฐบาลใหม่จะมาสานต่อนโยบายดีๆ ในการพัฒนาประเทศ
 

“วันนี้ตัวเองก็พยายามหาความรู้ และศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบันเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีของโลก และรู้ถึงวิวัฒนาการในต่างประเทศเพื่อเรียนรู้ ต่อยอด และยังใช้เวลาในการออกกำลังกายเพื่อให้มีความสุขในการใช้ชีวิต วันนี้พยายามไม่เศร้า พยายามไม่ทุกข์ แต่จริงๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่าชีวิตไม่มีความสุข หรือความทุกข์อยู่กับเราตลอดไป แต่ที่เห็นหัวเราะมีความสุข เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง เพราะไม่งั้นมันจะเป็นความทุกข์ แต่มุมหนึ่งของชีวิตมันก็มีความคิดถึงบ้าน"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า วันนี้อยากกลับบ้านหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “อยากกลับบ้าน เพราะถือเป็นบ้านเกิด แต่ยังไม่รู้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่ลิขิตว่าจะกำหนดให้ได้กลับบ้านหรือไม่ แต่วันนี้ต้องอยู่ให้ได้ ต้องปล่อยวาง และรอจังหวะเวลาในอนาคต”
 

เมื่อถามว่า ในปัจจุบันที่เยาวชนหันมาสนใจการเมือง และคลิปที่เป็นที่สนใจคือ คลิปที่อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กล่าวแถลงในช่วงที่สถานการณ์การเมืองในอดีตที่รุนแรงผ่านวลีถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่พยายามทำทุกอย่าง อะไรที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง พยายามปลดล็อกในสิ่งที่รัฐบาลในขณะนั้นทำได้ แต่ก็ยังมีการออกมาขับไล่อย่างรุนแรง

“ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกันก็ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้ง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นตนเองพยายามเข้มแข็งเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ในการประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น เราหวังว่าเรายุบสภาแล้วทุกอย่าง ที่เป็นความขัดแย้งก็จะเข้าสู่วิถีทางของประชาธิปไตยในสภาฯ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวังจนนำไปสู่การรัฐประหาร"


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้ำว่าที่ผ่านมา ไม่เคยพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้จะมีกระแสข่าวดีลลับ พร้อมยืนยันตัวเองมีความชัดเจนว่ารับไม่ได้ในเรื่องของรัฐประหาร ส่วนที่พรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 2 ตนในฐานะผู้ชมก็ต้องยอมรับ และดีใจที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นครรลองในระบอบประชาธิปไตย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์