"สุดารัตน์" ห่วง รปห. วอน "2พรรคใหญ่" ตกลงตำแหน่ง ประธานสภาฯ ให้จบ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส.ส.และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นำ ส.ส.ของพรรค จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นางสุภาพร สลับศรี ส.ส.ยโสธร,  นายหรั่ง ธุระพล ส.ส.อุดรธานี, นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ ส.ส.อุดรธานี,  นายชัชวาล แพทยาไทย ส.ส.ร้อยเอ็ด และ  นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ ส.ส.อุบลราชธานี เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเวลา 11.00 น.

 

ทั้งนี้ก่อนเข้ารายงานตัว คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันต่อเจตจำนงที่จะไม่รับตำแหน่งใดๆทางการเมือง เพราะต้องการร่วมก่อตั้งและสร้างให้พรรคไทยสร้างไทยเป็นสถาบันทางการเมือง อย่างไรก็ดีจากการประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลที่ตนแจ้งความประสงค์ ได้ร้องขอให้อยู่ดำรงตำแหน่งก่อน เพราะให้ช่วยประคับประคองรัฐบาลประชาธิปไตยให้จัดตั้งได้ำเร็จ อย่างไรก็ดีตามกฎหมายตนต้องมารายงานตัวต่อสภาฯ ก่อน  ส่วนจะตัดสินใจในห้วงเวลาใดนั้นตนยังไม่ทราบ

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงข่าวที่พรรคต้องการเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยว ว่า เป็นข่าวปล่อย ที่ตนกำลังหามือดีที่ปล่อยออกมา ทั้งนี้ตนยืนยันอีกครั้งว่าพรรคไม่มีปัญหาใด และพยายามเสียสละให้การตั้งรัฐบาลราบรื่น  ไม่มีเงื่อนไข ไม่เรียกร้องกระทรวงใด แต่คนที่พูดอาจเป็นความหวังของบางคน แต่ส่วนตัวมองว่าต้องผ่านขั้นตอนแรกที่สำคัญคือ เลือกประธานสภาฯ ต่อด้วยการเลือกนายกฯ โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาฯ หากไม่ลงตัวใน 8 พรรค การจัดตั้งรัฐบาลจะยากเย็น

 

 

เมื่อถามถึงประเด็นขัดแย้งในตำแหน่งประธานสภาฯ ที่มีกระแสข่าวว่าคนของพรรคเพื่อไทยจะถูกเสนอชื่อแข่งกับพรรคก้าวไกล หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ตนขอให้ทุกพรรคมองประโยชน์ปะเทศ โดยมีสิ่งที่ตนกังวลที่สุด จากประสบการณ์ทางการเมือง เกือบ 32 ปี  และเป็นส.ส.ในช่วงการเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ตนไม่อยากให้เกิดการชุมนุม  ความสูญเสีย และให้คนที่ถือปืน อ้างเหตุให้รัฐประหาร

“ขอร้องทุกฝ่ายอยากให้เห็นแก่ประชาชน และประเทศให้มากที่สุด 2 พรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดต้องรูปว่าตำแหน่งประธานสภาฯ มีความสำคัญ ไม่ใช่แค่ตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติ แต่ในสถานการณ์ที่ประชาชนฝากความหวัง พรรคอันดับ1 และพรรคอันดับ2 ต้องคุยกันให้จบ เสียสละเพื่อส่วนรวม ตกลงกันให้จบ  ถ้าโหวตแข่งกันในฝ่ายประชาธิปไตย จบเห่แน่นอน”  หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าว

 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ก่อนหน้าที่พรรคไทยสร้างไทยและเครือข่ายเคยเสนอเนื้อหาต่อสภาฯ ว่า  พรรคเคยยื่นเรื่องให้แก้ไขโดยให้ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร. โดยไม่แตะต้องหมวด1 และหมวด2 ไม่ต้องทำประชามติ อยากให้ประชาชนสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวของพรรค เพราะไม่ได้แก้ไขเพียงแค่ ส.ว. 250 คน แต่ยังมีเรื่องยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่เป็นเงื่อนไขให้ทุกรัฐบาลต้องปฏิบัติตาม อาจทำให้เกิดวิกฤตการเมืองตามมา จึงต้องดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้อยู่ในมือของประชาชน ไม่ใช่ปลายกระบอกปืนของเผด็จการ