ส.ส.ก้าวไกล เสียใจเหตุถังดับเพลิงระเบิด ร.ร.ราชวินิตฯ บี้ สพฐ.เยียวยาด่วน
'ก้าวไกล' ออกแถลงการณ์ แสดงความเสียใจเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดใน ร.ร.ราชวินิตมัธยม หวังเป็นอุบัติเหตุในโรงเรียนครั้งสุดท้าย จี้รัฐบาลรักษาการ รีบตั้งกรรมการสอบ-แสดงความรับผิดชอบ ‘วิโรจน์’ บี้ สพฐ.เร่งเยียวยาผู้เสียหาย ‘โรม’ ชี้เป็นเครื่องเตือนใจราคาแพง
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2566 จากเหตุการณ์โรงเรียนราชวินิตมัธยม ถนนพิษณุโลก มีการซ้อมหนีไฟ 3 รอบ โดยใช้อุปกรณ์จากหน่วยงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. แต่ในการซ้อมรอบที่ 2 ถังดับเพลิงระเบิดลอยมาโดนเด็กผู้สาธิต และ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานบรรเทาสาธารณภัย ทำให้นักเรียนชายชั้น ม. 6 เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 คน โดย 1 ราย อาการสาหัสที่แขนและขานั้น มี ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตไปถึงมาตรฐานความปลอดภัย
โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องเร่งเยียวยาผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน พร้อมกับสอบสวนข้อเท็จจริงว่า เหตุใดถังดับเพลิงถึงระเบิดได้ การจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องหรือไม่ ถังดับเพลิงที่จัดซื้อได้มาตรฐานหรือเปล่า มีการบำรุงรักษาตามระยะหรือไม่
ส่วนนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่และครอบครัวของน้องๆ นักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์"ถังดับเพลิงระเบิด" ขณะมีการซ้อมดับเพลิงที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม อุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจราคาแพง ถึงความหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมาย มาควบคุมมาตรฐานความปลอดภัย และอายุการใช้งานของอุปกรณ์ที่เรามักจะละเลย เช่น ถังดับเพลิง
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.56 น.วันเดียวกัน พรรคก้าวไกล โดยนายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะทำงานด้านการศึกษาของพรรค ออกแถลงการณ์ในนามพรรคก้าวไกล แสดงความเสียใจเหตุถังดับเพลิงระเบิด ร.ร.ราชวินิตมัธยม โดยระบุว่า ตนและพรรคก้าวไกล ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิต ต่อเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นครั้งนี้
นายปารมี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีที่มาจากหน่วยงานภายนอกที่เข้ามาทำการซักซ้อมนักเรียนในการรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ โดยมีการนำทั้งถังดับเพลิงที่จะนำมาใช้งานจริง และถังที่จะไม่ได้ใช้ในการซ้อมจริงมาประกอบการสาธิตด้วย โดยถังที่ระเบิดไม่ใช่ถังที่จะใช้ซักซ้อม แต่กลับถูกวางไว้ข้างๆ กัน ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน ว่าเกิดจากความประมาทเช่นนั้นใช่หรือไม่ ขณะเดียวกันหน่วยงานภายนอกที่เข้ามาอำนวยการซักซ้อมก็จะต้องมีมาตรการป้องกันให้รัดกุมกว่านี้ในอนาคต
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือรัฐบาลรักษาการต้องมีการสั่งการให้หน่วยงานที่ ประมาทเลินเล่อจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ต้องออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบ และต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ความผิดพลาดครั้งนี้ และต้องมีผู้รับผิดชอบต่อหนึ่งชีวิตของอนาคตของชาติที่สูญเสียไป ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานหรือโรงเรียน” นายปารมี กล่าว
นายปารมี กล่าวอีกว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้หมายความว่าการซักซ้อมรับมือเหตุต่างๆ ควรจะต้องลดลง แต่ในทางกลับกัน โรงเรียนควรจะต้องมีการซ้อมรับมือเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุไฟไหม้ ภัยภิบัติ น้ำท่วม รวมถึงการก่อการร้าย อย่างจริงจังสม่ำเสมอมากขึ้นด้วย แต่กลไกการป้องกันให้การซักซ้อมเป็นไปโดยปลอดภัยก็ต้องมีคู่กันด้วย ซึ่งตนก็ต้องขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องตรวจสอบอุปกรณ์หลายๆ ชั้น ให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยจริงๆ เหตุร้ายแรงเหล่านี้เราป้องกันได้ถ้ามีกลไกและกระบวนการต่างๆ ที่ทำอย่างรอบคอบ
นายปารมี กล่าวด้วยว่า ในฐานะ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ทำงานด้านการศึกษา หากตนได้เริ่มงานในสภาเมื่อไหร่ ตนและพรรคก้าวไกลจะผลักดันประเด็นนี้แน่นอน ในการสร้างสวัสดิภาพทั้งกายภาพและจิตใจให้แก่นักเรียน ซึ่งเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงไปถึงงบประมาณ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว ในการเพิ่มงบประมาณให้โรงเรียนต่างๆ ที่ปัจจุบันได้รับอย่างจำกัด ทำให้คุณภาพในการเรียนการสอนและการดูแลสวัสดิภาพของนักเรียนไม่ทั่วถึงครบถ้วน
“เราไม่ควรปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเฉยๆ แต่ควรใช้โอกาสนี้ในการชวนสังคมเรามาขบคิดพูดคุยกัน เพื่อหากลไกที่จะป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะเหตุการณ์ล่าสุดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียน ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินข่าวเป็นระยะๆ ว่ามีเหตุนักเรียนถูกไฟดูดบ้าง บาดเจ็บในโรงเรียนจากเรื่องอื่นๆ บ้าง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นอีกเลย” นายปารมี กล่าว