‘ประเสริฐ’ บอก ‘ก้าวไกล’ นัด 28 มิ.ย.เคลียร์ปม ‘ประธานสภาฯ’
‘ประเสริฐ’ บอก ‘ก้าวไกล’ นัด 28 มิ.ย.เคลียร์ปม ‘ประธานสภาฯ’ รับความเห็นพรรคเพื่อไทย ต้องถกในวง ‘กก.บห.’ อ้างกระบวนการยังไม่จบ โยน ‘ก้าวไกล’ แก้ปัญหากับประชาชาติเอง
ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยมีเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้พรรคได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ทางคณะเจรจาจะยึดตามเสียงส่วนใหญ่หรือตามหลักการ ว่าเรื่องนี้อยากแยกประเด็นก่อนคือ ก่อนหน้าที่จะมีการสัมมนา ส.ส. พรรคมีจุดยืนคือ ให้พรรคที่มีเสียงข้างมากทำหน้าที่ประธานสภาฯ ส่วนพรรคที่ได้อันดับสองได้รองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน
“หลังจากที่พรรคประกาศจุดยืนไปแล้ว มีความเห็นส.ส.ออกมาในวันที่ 21 มิ.ย. ในช่วงที่มีการเปิดให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็น พรรคได้รับเรื่องที่ส.ส.แสดงความคิดเห็นแล้ว และขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะนำเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็น โดยจะมีการประชุม กก.บห.ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้”
เมื่อถามว่า จะได้ข้อสรุปเรื่องประธานสภาฯ เมื่อไหร่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้คุยกับนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แล้ว โดยได้นัดหมายพูดคุยกันวันที่ 28 มิ.ย. ระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย เพราะตั้งแต่ที่มีการคุยกันเรื่องจุดยืนของพรรค ทางพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้มีการตอบรับหรือปฏิเสธเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งคิดว่าระยะเวลาในการเลือกประธานสภาฯ ใกล้เข้ามาแล้วจึงควรต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อทำความเข้าใจ และทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามว่า เสียงส่วนใหญ่ของส.ส.ต้องการให้ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ จะต้องยึดมตินี้ไปคุยกับพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า วันที่ 27 มิ.ย. เวลา 15.00 น. จะมีการประชุมพรรค หลังจากการประชุมกก.บห. เพื่อรับฟังความคิดเห็นของส.ส.ใหม่อีกครั้ง และเรารับฟังความเห็นของส.ส. รวมถึงสิ่งที่กก.บห.ได้ประชุมมา ก็จะได้มีการนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อหาข้อสรุป ก่อนจะนำไปคุยกับทางพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้ แม้การโหวตเสียงในสภาฯ จะเป็นเอกสิทธิ์ แต่พรรคมีข้อบังคับ แม้มีความเห็นต่างกัน แต่เรามีการประชุมเพื่อหาข้อยุติก่อนไปโหวตจริง ที่ต้องมีเอกภาพว่าเสียงจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามทำอยู่
เมื่อถามอีกว่า ทางพรรคเพื่อไทย จะยึดมติพรรค ในการพูดคุยกับส.ส.และกก.บห. หรือยึดหลักการในการไปคุยกับพรรคก้าวไกล นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายึดหลักการที่แถลงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหากมีคนเห็นค้านก็เป็นหน้าที่ที่พรรคต้องทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ขอให้ได้ข้อยุติก่อน จริงๆ แล้ว ข้อท้วงติงของส.ส.หลายข้อเราก็รับฟัง เช่น กรณีที่มีการบอกว่าทำอะไรไม่ปรึกษาเขาก่อน ซึ่งเรื่องนี้เราก็ผิดเช่นกัน เพราะเราต้องปรึกษาเขาก่อน แต่บางครั้งสถานการณ์การเมือง เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจในบางเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม เรายังถือว่ากระบวนการยังไม่จบ เพราะเป็นจุดยืนของพรรค ที่เรายังไม่ได้คุยกับพรรคก้าวไกลอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามถึง กรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า พรรคประชาชาติ ระบุว่าเก้าอี้รองประธานสภาฯ ควรเป็นของพรรคอันดับ 3 นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคิดว่ารองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน เป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทย และในครั้งนี้ ต้องเรียนว่าจำนวนส.ส.ของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ใกล้เคียงกัน และห่างจากพรรคอันดับ 3 พอสมควร แต่ในเรื่องนี้เมื่อเป็นความคิดเห็นของพรรคประชาชาติ
“ผมคิดว่าในที่ประชุมคงต้องมีการหารือระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคประชาชาติอีกวง เพราะว่าไม่เช่นนั้นจะไม่มีที่สิ้นสุด และพรรคเพื่อไทยก็แสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่าหากพรรคลำดับ 2 ได้ก็ควรเป็นของพรรคอันดับ 2 ทั้ง 2 คน”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์