'เศรษฐา' ดัน กม.สมรสเท่าเทียม ให้สำเร็จรัฐบาลหน้า ชงทุกฝ่ายทำความเข้าใจ
'เศรษฐา ทวีสิน' ร่วมวงเสวนาฉลองเดือนไพรด์ 'ในนามของความรัก' ย้ำ 'กฎหมายสมรสเท่าเทียม' ต้องผลักดันให้สำเร็จในรัฐบาลชุดหน้า เสนอทุกฝ่ายเร่งทำความเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียม เพื่อสร้างแนวร่วมสนับสนุนกฎหมาย
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ร่วมเสวนาในกิจกรรม “ในนามของความรัก” แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตัวแทนผู้กำกับภาพยนตร์ เพื่อเฉลิมฉลองเดือนไพรด์ จัดโดยคณะนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลาย พรรคเพื่อไทย ร่วมกับ Thinklab
โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องสิทธิเท่าเทียมกันเป็นเรื่องสำคัญในสังคม หลายคนเข้าใจผิดว่าเขาขอสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น ซึ่งไม่ใช่ จึงเกิดความเข้าใจผิดและต่อต้านว่าถ้ายกระดับเป็น “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” แล้วกังวลว่าจะไปลิดรอนสิทธิของเขา
นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางเพศนี้ เป็นเรื่องที่อยู่ในสังคมครอบครัวที่บ้านเรา อยู่ในสังคมที่ทำงาน ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้โอกาสตรงนี้มากเพราะเห็นความสำคัญ และ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ก็คือเรื่องหนึ่งที่ให้ความสำคัญ ซึ่งจะต้องทำให้เกิดให้ได้ก่อน ส่วนกฎหมายลูกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น คำนำหน้านาม การเกณฑ์ทหาร หรือ สิทธิรักษาพยาบาลอะไรต่างๆ นั้น ก็จะค่อยๆ ดำเนินการต่อไป แต่ไม่ใช่เอาประเด็นเล็กมาพูดคุยกันและกลบจนประเด็นใหญ่คือเรื่องสมรสเท่าเทียมไม่เกิด
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศในปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อย ได้แสดงความต้องการอย่างชัดเจนว่าต้องการกฎหมายที่จะช่วยดูแลสิทธิเสรีภาพของตัวเอง ซึ่งกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นกฎหมายที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ได้นำมาเป็นนโยบายและให้คำมั่นว่าจะทำทันที เมื่อสองพรรคการเมืองนี้กำลังจะเป็นรัฐบาล ดังนั้นทั้งสองพรรคจึงไม่สามารถถอยหลังได้ และต้องผลักดันเดินหน้าให้สำเร็จในรัฐบาลหน้า
นายเศรษฐา กล่าวถึงแนวคิดการสนับสนุนภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายทางเพศว่า จุดสำคัญคือ จะต้องทำให้คนหมู่มากให้การยอมรับและเป็นอุตสาหกรรมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องหาช่องทางสนับสนุนให้สังคมมีความเข้าใจ หาช่องทางการตลาดเข้ามาเสริม เช่น การประชาสัมพันธ์ รวมถึงการสื่อสารถึงกลุ่มต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมไปในทิศทางที่เหมาะสม
“ผมคิดถึงเวลาเดินทางด้วยการบินไทย ทำอย่างไรเราจะผลักดันภาพยนตร์ที่ผลิตโดยผู้กำกับคนไทย ไปฉายบนเครื่องการบินไทย อาจจะจัดพีอาร์เที่ยวบินเชิญผู้เกี่ยวข้องขึ้นเครื่องบินกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ฉายหนังของผู้กำกับไทยพร้อมประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจ สอดแทรกถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพที่เราเรียกร้อง สื่อสารให้ชัดเจนว่าเราอยากได้เพื่อความเท่าเทียม ไม่ใช่สิทธิพิเศษ พูดเรื่องโดนใจใกล้ตัวเองสื่อสารให้คนหมู่มากได้เข้าใจ และเขาจะช่วยกันผลักดันให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมสำเร็จได้” นายเศรษฐา กล่าว