"นพดล" ห่วงตั้งรบ.ช้ากระทบ ศก.-ปัด "พท."มีแผนสำรองเรื่องโหวตนายกฯ
"นพดล" รายงานตัวต่อสภาฯ แล้ว ยอมรับ ตั้งรัฐบาลล่าช้า กระทบความมั่นใจลงทุน-เศรษฐกิจ ปัดมีแผนสำรอง หาก "พิธา" เสียงโหวตไม่พอเป็นนายกฯ ย้ำยึดมั่น MOU
นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้ารายงานตัวเป็นส.ส.ต่อสภาผู้แทนราษฎร ต่อประเด็นปัญหาการตกลงเรื่องโควต้าประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีข่าวว่ายังไม่สามารถเจรจาให้เป็นไปตามแนวทางที่ตัวแทนพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เจรจาร่วมกันได้ โดยมั่นใจว่า ประเด็นดังกล่าวจะสามารถหาข้อสรุป และทางออกแน่นอน ซึ่งทางออกมี 2 ทาง คือ เป็นของพรรคก้าวไกล หรือของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ดังนั้นคณะที่ได้มอบหมายให้ไปเจรจา รวมทั้งท่าทีส.ส.พรรค คงพูดคุย เชื่อว่ามีทางออกที่ดีกับประชาชน ซึ่งจะไม่กระทบต่อความมุ่งมั่นในการตั้งรัฐบาล 8 พรรค
“กรณีแสดงความเห็นที่หลากหลายในพรรคเพื่อไทยเป็นปกติของพรรคและนักการเมมือง ให้ทุกคนเห็นตรงกันไม่ง่าย แต่วันที่ 27 มิ.ย. ที่หารือในพรรคจะมีข้อยุติที่เป็นประโยชน์ทุกฝ่าย โดยพรรคเพื่อไทยคิดเสมอว่าต้องไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ข้อสรุปที่ได้ จะเอื้อต่อการร่วมรัฐบาลกันต่อไป ผมมั่นใจว่ามีทางออกที่ดี จะไม่มีปัญหาที่ประชาชนฟังแล้วผิดหวังและลดทอนความคาดหวังของรัฐบาล 8 พรรค” นายนพดล กล่าว
ผู้สือข่าวถามถึงท่าทีของส.ว. ที่ชัดเจนอย่างมากจะไม่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ กังวลว่าจะทำให้นายพิธาไม่ได้เสียงที่เพียงพอหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่มีข้อมูลว่ามี ส.ว. ที่จะโหวต หรือไม่โหวตให้นายพิธาเท่าไร แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังยึดมั่นที่จะสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนเหตุอื่นจะเป็นอย่างไร หรือสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรขอให้รอดู
เมื่อถามว่าปมปัญหาของนายกฯ ที่เลือกไม่ได้กังวลจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งล่าช้าหรือไม่ และพรรคเพื่อไทยมีแผนสำรองเพื่อแก้ปัญหาหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า แน่นอนว่าการตั้งรัฐบาลล่าช้ามีผลกระทบทั้งในแง่ของความมั่นใจจากนักลงทุนและไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นทุกฝ่ายทราบดีว่าต้องตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ดีขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีแผนสำรองในเรื่องดังกล่าว และยังยึดตามเอ็มโอยู ที่ 8 พรรคร่วมลงนามร่วมกัน
“ผมมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี นี่เรารอมาเดือนกว่าแล้ว” นายนพดล กล่าว