"รทสช." ส่ง "วิทยา" ประลองกำลัง "ปดิพัทธ์" ชิงรองปธ.สภาฯคนที่1

"รทสช." ส่ง "วิทยา" ประลองกำลัง "ปดิพัทธ์" ชิงรองปธ.สภาฯคนที่1

รวมไทยสร้างชาติ เสนอ "วิทยา แก้วภราดัย" ชิงตำแหน่ง รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง กับ "ปดิพัทธ์" ก่อนลงมติ สภาฯ ถกวิธีลงคะแนน หวั่นเขียนชื่อผิด กลายเป็นบัตรเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาฯ  หลังจากผ่านวาระการเลือกประธานสภาฯ แล้ว ซึ่งมีการเสนอชื่อเพียงชื่อเดียว คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธาสภาฯ โดยไม่มีการลงมติแข่งขัน

 

 

จากนั้น เวลา 10.30 น.  พล.ต.ต.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานสภาชั่วคราว แจ้งให้เข้าสู่ขั้นตอนเลือกรองประธานสภาฯ จำนวน2 คน โดยต้องเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งให้แล้วเสร็จก่อนจึงต่อด้วย รองประธานสภาฯ คนที่สอง

 

 

โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายปดิพัทธ์ ส้นติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง อย่างไรก็ดีนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์  ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ  เป็นคู่ชิงตำแหน่ง ทำให้ต้องลงคะแนนเป็นการลับ ผ่านบัตรลงคะแนน

 

 

จากนั้นประธานสภาฯชั่วคราวได้ให้ ผู้ถูกเสนอชื่อแสดงวิสัยทัศน์

โดย นายปดิพัทธ์ แสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า เป็นความรับผิดชอบของตนที่จะสนับสนุนองค์กรนิติบัญญัติ และสนับสนุนประธานสภาฯที่ได้รับเลือกจากส.ส.​ทั้งนี้ ในกระบวนการนิติบัญญัติแนวทางของตนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตน คือ พัฒนากระบวนการนิติบัญญัติให้เป็น Smart Parliament เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่น ศรัทธาจากประชาชนและสากล นอกจากนั้น สภาฯต้องตรวจสอบได้ โดยเฉพาะให้ประชาชนฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียงในการพิจารณาติดตามร่างกฎหมาย ฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย นอกจากนั้นต้องแปลกฎหมายที่ผ่านมาวาระสามของสภาฯ และมีผลบังคับใช้เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับอาเซียนและประชาคมโลก นอกจากนั้นคือ ส่งเสริมความเท่าเทียมสมาชิกที่มีความหลากหลายทางเพศ บทบาทสตรี และส.ส.ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี

 

 

“ต้องยกระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน  ไม่ใช่แค่เลือกตัวแทนทำงานในสภาฯ รวมถึงการรับฟังความคิดเห็น สะท้อนเสียงประชาชนสู่สภาฯ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้หากตนได้รับเลือก ตลอดการทำงานจะวางตัวเป็นกลาง ใช้ความสามารถพัฒนาองค์กร เป็นระบบราชการทันสมัยและตอบสนองประชาชนและการทำงานของส.ส.ให้เต็มศักยภาพ ดังนั้นผมขอความไว้วางใจ ในการทำงาน 4 ปีที่ผ่านมาในฐานะกรรมาธิการฯ สมาชิกเห็นการทำงานของตนแล้วว่ามีความเป็นกลาง ดังนั้นตนมั่นใจและสัญญาว่าจะสนับสนุนงานของประธานสภาฯให้ดีที่สุด บริการส.ส.ทุกคนอย่างเท่าเทียมปราศจากอคติและทำทุกวิถีทางให้กระบวนการนิติบัญญัติสง่างามและมีประสิทธิภาพ” นายปดิพัทธ์ กล่าว

ขณะที่นายวิทยา แสดงวิสัยทัศน์ ว่า ตนจะทำงานด้วยความเป็นกลางและรักษาองค์กรสภานิติบัญญัติ ให้เป็นสภาฯ ที่ทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ  สถานที่นี้ เป็นสถานที่ที่ออกกติกาของสังคม ตนเชื่อว่าหากทำหน้าที่รองประธานสภาฯ  จะปฏิบัติตามแนวนโยบายและทำหน้าที่เป็นกลาง เสมอภาค กับส.ส.ในสภาฯ และมั่นใจว่าจะรักษาเกียรติภูมิและหน้าตาของสภา

 

“ขอให้มั่นใจว่าจะวางตัวเป็นกลางและรักษาเกียรติภูมิให้ประชาชนเชื่อมั่น ยอมรับว่าบางยุคบางสมัยประชาชนเบื่อหน่าย ลำคาญ สภาไร้ระเบียบวินัย เราต้องช่วยกันทำให้สภาฯ มีเกียรติภูมิขอให้ความมั่นใจ ในสมัยของสภาชุดนี้ จะทำหน้าที่เป็นกลางและรักษาเกียรติภูมิของสภาไว้ให้ดีที่สุด” นายวิทยา กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรางานว่าก่อนที่จะลงมติด้วยการลงคะแนนลับ ผ่านการเขียนชื่อผู้ประสงค์จะเลือกให้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งในคูหา  นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หารือต่อที่ประชุมในการเขียนชื่อผู้ที่ส.ส.จะเลือก ในลักษณะของบัตรดีบัตรเสีย เช่น การเขียนชื่อ หรือตัวสะกดผิด จะทำให้มีปัญหาหรือการร้องเรียนหรือไม่ อย่างไรก็ดีที่ประชุมใช้เวลาหารือนานกว่า 20 นาที ก่อนจะมีข้อสรุปว่า ให้เขียนเฉพาะชื่อผู้ที่ประสงค์จะเลือกเท่านั้นในคูหาและจากนั้นให้นำมาหย่อนในกล่องที่เตรียมไว้

 

 

จากนั้น ได้ให้ส.ส. แสดงตนก่อนลงมติ พบว่ามีผู้มาแสดงตน 493 คน และได้เข้าสู่การลงคะแนนลับ เมื่อเวลา 11.14 น. โดยเลขาธิการสภาฯ จะเรียก ส.ส. ตามลำดับหมายเลขให้รับบัตรลงคะแนนตามลำดับอักษร.