‘พิธา’ เล่าเหตุยอมถอย ประธานสภาฯ รักษาเอกภาพทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล
‘พิธา’ โพสต์ผ่านโซเชียลฯ อธิบายเหตุผล ‘ก้าวไกล’ ยอมถอยตำแหน่งประธานสภาฯให้ ‘วันนอร์’ ยันเพื่อรักษาเอกภาพการทำงานกับพรรคร่วม ชี้ฉากทัศน์การเมืองไทยไม่แน่นอน ขอให้เชื่อมั่นการตัดสินใจครั้งนี้ ลั่นไม่ใช่ตัดสินใจเฉพาะหน้า ยันไม่ทรยศความไว้ใจประชาชน
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจถึงการตัดสินใจร่วมระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ในการเสนอชื่อ ‘วันนอร์’นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ ว่า ภายหลังข้อสรุปการตัดสินใจร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงยอมถอยเรื่องตำแหน่งประธานสภาทั้งที่ได้ประกาศวาระที่ต้องการผลักดันไปแล้วกับประชาชน
“ผมขอยืนยันว่าการตัดสินใจของเรา เราตัดสินใจภายใต้การรักษาเอกภาพการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พวกเราถอยจากเงื่อนไขเดิมที่พวกเราตั้ง ภายใต้เงื่อนไขการบริหารงานสภาภายใต้นโยบายที่พรรคก้าวไกลแถลงไปแล้ว” นายพิธา ระบุ
นายพิธา ระบุอีกว่า ก่อนที่เราจะทำการตัดสินใจ พวกเราได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์วันนอร์ เราได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาว่า “สภาก้าวหน้า”, “สภาโปร่งใส”, “สภาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” จะเป็นนโยบายหลักภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของอาจารย์วันนอร์ นอกจากนี้อาจารย์วันนอร์ยังให้คำมั่นกับพวกเราว่ากฎหมายสำคัญของพรรคก้าวไกล เช่น สุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม กฎหมายเพื่อกลุ่มพี่น้องแรงงาน และกฎหมายเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์ จะไม่ถูกขัดขวางหรือถ่วงให้ช้าไม่ว่าด้วยความไม่ไว้วางใจหรือความไร้ประสิทธิภาพภายใต้การทำงานของ อ.วันนอร์
“โดยส่วนตัว ผมได้มีโอกาสร่วมงานกันภายใต้พรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลที่ผ่านมา ในทุกการประชุมร่วมกัน อ.วันนอร์ ยืนอยู่ข้างเหตุผลและความถูกต้องอยู่เสมอ ซึ่งเป็นจุดร่วมกันกับที่พรรคก้าวไกล จนผมกล้าพูดได้ว่าอาจารย์วันนอร์เป็นหนึ่งคนที่ผมสามารถไหว้ได้อย่างสนิทใจ” นายพิธา ระบุ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า ภายใต้ฉากทัศน์ที่ไม่แน่นอนของการเมืองไทย พวกเราไม่ประมาทในทุกสถานการณ์ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของพวกเรา พรรคก้าวไกลทำภายใต้ความคิดว่า “หลักการสำคัญกว่าตัวบุคคล” สาเหตุที่เราเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ไม่ใช่เพราะนายปดิพัทธ์ คือนายปดิพัทธ์ แต่เพราะเราเชื่อว่านายปดิพัทธ์ คือคนที่พรรคก้าวไกลเชื่อมั่นว่าจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงสภาให้เป็นแบบที่เราอยากเห็นได้ สุดท้าย ไม่ว่าฉากทัศน์จะเป็นอย่างไร พร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ การตัดสินใจครั้งนี้ของพวกเราไม่ใช่การเอาประโยชน์ของผมหรือพรรคก้าวไกลเป็นตัวตั้ง แต่เป็นภารกิจเพื่ออนาคตการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ
“การตัดสินใจภายใต้เงื่อนไขรัฐบาลผสม สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ที่จะเดินหน้าและถอยภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม การตัดสินใจของพรรคก้าวไกลในวันนี้ ไม่ใช่เป็นไปเพื่อเหตุผลทางการเมืองเฉพาะหน้า แต่เราตัดสินใจจากคุณค่าพื้นฐานร่วมกันของพรรคในการทำงานการเมืองระยะยาวเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้สำเร็จได้ โดยมีเส้นที่เราจะไม่สามารถล่วงล้ำได้เลย คือการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน” นายพิธา ระบุ